svasdssvasds

กว่า 90 ประเทศตอบรับสนธิสัญญาพลาสติกโลก อาเซียนมี 2 ประเทศ ไร้ไทย

กว่า 90 ประเทศตอบรับสนธิสัญญาพลาสติกโลก อาเซียนมี 2 ประเทศ ไร้ไทย

ยุติมลพิษพลาสติกครบวงจรจะต้องทะเยอทะยานมากกว่านี้! ข่าวดี มี 90 กว่าประเทศลงนามเห็นด้วยต่อสนธิสัญญาพลาสติกโลกฉบับใหม่ อาเซียนมี 2 ประเทศคือ ฟิลิปปินส์และกัมพูชา ยังไร้ไทย

ปัญหาการจัดการพลาสติก ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งแก้ไขตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง หากทั่วโลกไม่ร่วมมือกันหาแนวทางในการจัดการมลพิษพลาสติกที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เราอาจสูญเสียสิ่งที่ไม่อาจหวนกลับไปแก้ไขได้อีก

แต่ขณะนี้เป็นเรื่องน่ายินดีและเป็นสัญญาณดี เพราะเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ในการประชุมมหาสมุทรแห่งสหประชาชาติ ที่จัดขึ้น ณ เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการประกาศความร่วมมือจากรัฐบาลมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก สำหรับสนธิสัญญาว่าด้วยมลพิษพลาสติกระดับโลกที่จะต้องมี “ประสิทธิผลและทะเยอทะยานมากขึ้นกว่านี้”

ตัวแทนจากประเทศต่างๆ เรียกร้องให้มีสนธิสัญญาอันทะเยอทะยานเกี่ยวกับมลภาวะพลาสติก ในงานประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับมหาสมุทร (UNOC3) ในเมืองนีซ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 Cr.AFP

อนึ่ง สนธิสัญญาพลาสติกโลก (Global Plastic Treaty) คือมาตรการด้านมลพิษจากพลาสติกรวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางทะเล ที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นความหวังในการยุติมลพิษพลาสติกที่ครบวงจรและยั่งยืน

การเจรจาเกี่ยวกับสนธิสัญญาโลกเพื่อควบคุมมลพิษจากพลาสติก ได้ดำเนินการมานานหลายปีแล้ว และจะมีการเจรจากันอีกครั้งในช่วงฤดูร้อนนี้ที่เจนีวา

อย่างไรก็ตาม คำประกาศใหม่ได้เรียกร้องให้มีพันธะผูกพันทางกฎหมายในการยุติการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกและสารเคมีที่ก่อให้เกิดปัญหาในผลิตภัณฑ์พลาสติกมากที่สุด โดยสนธิสัญญานี้จะต้องมีประสิทธิผลและมีความทะเยอทะยาน สามารถพัฒนาไปตามกาลเวลา และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของหลักฐานและความรู้ใหม่ ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

กว่า 90 ประเทศตอบรับสนธิสัญญาพลาสติกโลก อาเซียนมี 2 ประเทศ ไร้ไทย

เอริน ไซมอน (Erin Simon) รองประธานด้านขยะพลาสติกและธุรกิจของกองทุนสัตว์ป่าโลก เผยว่า แถลงการณ์ดังกล่าว ได้ส่งสัญญาณเชิงบวกในการที่ประเทศต่าง ๆ ให้กับสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งในการทำสนธิสัญญา และนั่นหมายถึงการยอมรับที่ดูเป็นรูปธรรมมากขึ้นในการยุติมลภาวะจากพลาสติก

เราเหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนก่อนเจรจารอบต่อไปจะเริ่มต้นขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ประเทศต่าง ๆ จะต้องมานั่งโต๊ะเจรจาเพื่อเตรียมความพร้อมลงมือดำเนินการตามสนธิสัญญาที่ประชาชนและคนทั้งโลกควรได้รับ

สรุปเนื้อหาสาระสำคัญสำหรับประกาศล่าสุด 5 ข้อ เจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลก :

  1. ตระหนักว่าการจัดการพลาสติกต้องครอบคลุมตลอดวงจรชีวิต รวมถึงขั้นตอนการผลิตและการบริโภค เรียกร้องให้มีการกำหนดเป้าหมายระดับโลกเพื่อลดการผลิตพลาสติกดิบ (primary plastic polymers) ให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืน
  2. เรียกร้องให้มีข้อผูกพันทางกฎหมายในการเลิกใช้ผลิตภัณฑ์พลาติกและสารเคมีที่เป็นปัญหามากที่สุด สนับสนุนให้มีการควบคุมรายการผลิตภัณฑ์พลาสติกและสารเคมีในระดับโลก ให้เป็นไปตามบริบทของแต่ละประเทศ
  3. เน้นความสำคัญของกฎหมายในการออกแบบผลิตภัณฑ์พลาสติกให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ให้คำนึงถึงสุขภาพของมนุษย์เป็นหลัก เช่น ลดการใช้สารเคมีน่ากลัว เพิ่มวัสดุรีไซเคิลได้ หรือใช้ซ้ำได้
  4. ตระหนักถึงความจำเป็นในวิธีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมแหล่งเงินทุนที่เข้าถึงได้ และเพิ่มเติมจากเดิม โดยคำนึงถึงสถานการณ์พิเศษของประเทศด้อยพัฒนาและประเทศเกาะเล็ก ที่ต้องได้รับการแก้ไขภายใต้หลัก “ผู้ก่อมลพิษต้องจ่าย”
  5. เรียกร้องให้สนธิสัญญามีความทะเยอทะยาน มีประสิทธิภาพ และปรับตัวได้เมื่อมีข้อมูลหรือหลักฐานใหม่ ๆ โดยเปิดให้การตัดสินใจเป็นไปตามกระบวนการของ UN ตามปกติ แต่หากสนธิสัญญาขาดองค์ประกอบเหล่านี้ และพึ่งพาแต่มาตรการสมัครใจ หรือไม่ครอบคลุมทั้งวงจรชิวตพลาสติก เราจะไม่สามารถยุติมลพิษพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักเคลื่อนไหวแต่ละประเทศออกมารณรงค์หใ้แต่ละประเทศยุติมลพิษพลาสติก Cr.AFP

“เราจึงขอเรียกร้องให้สมาชิก INC ทุกประเทศคว้าโอกาสประวัติศาสตร์นี้ไว้ เพื่อสรุปสนธิสัญญาที่มีความทะเยอทะยาน เป็นสากล และมีประสิทธิภาพในการประชุม INC ครั้งที่ 5.2 ซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันถึงเจตจำนงร่วมของเราที่ยุติมลพิษจากพลาสติก เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นนี้และรุ่นต่อไป รวมถึงโลกของเรา”

กว่า 90 ประเทศตอบรับสนธิสัญญาพลาสติกโลก อาเซียนมี 2 ประเทศ ไร้ไทย

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ได้มีการประกาศรายชื่อประเทศที่ให้การตอบรับและพร้อมสนับสนุนสนธิสัญญาพลาสติกโลกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งสิ้น 95 ประเทศ แต่หากซูมดูจะพบว่า กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มีผู้ตอบรับเข้าร่วมประกาศนี้เพียง 2 ประเทศ คือ กัมพูชา และ ฟิลิปปินส์ ส่วนไทยไม่ได้ลงนามเข้าร่วมในการเรียกร้องครั้งนี้

ที่มาข้อมูล

Forbs

Greenpeace Thailand

แถลงการณ์

related