svasdssvasds

เมื่อฟุตบอลชนบท ปะทะ เด็กอาคาเดมี่ ชวนดู Ao Ashi มังงะฟุตบอลญี่ปุ่น

เมื่อฟุตบอลชนบท ปะทะ เด็กอาคาเดมี่ ชวนดู Ao Ashi มังงะฟุตบอลญี่ปุ่น

Ao Ashi มังงะฟุตบอลญี่ปุ่น เปิดตัวเมื่อปี 2015 ที่ฉายให้เห็นความแตกต่างของฟุตบอลชนบท กับการก้าวข้ามไปสู่เด็กอาคาเดมี่ เพื่อพัฒนาสู่คำว่า แข้งอาชีพ

บรรยากาศนัดชิงชนะเลิศระหว่าง โรงเรียนหมอนทองวิทยา กับ โรงเรียน อบจ.ชัยนาท ในศึกฟุตบอล 7 สีในช่วงเย็นย่ำของวานนี้ ได้เปลี่ยนให้สนามศุภชลาศัย กลายเป็นสังเวียนลูกหนังสุดยิ่งใหญ่ ชนิดที่มีแฟนบอลเกาะติดกันถึงขอบสนาม

ศึกนิดชิงในครั้งนี้ทำให้เราเห็นเรื่องน่าสนใจในหลายมิติ อาทิ การจัดการ ศรัทธาแฟนบอลไทย ฯลฯ สิ่งที่ SPRiNG มองเห็นคือ ‘สมรรถภาพ’ และ ‘ระบบที่ถูกฝังในวิธีการเล่น’ ของเด็กจากทั้งสองทีม ซึ่งต้องยอมรับกันตามตรงว่า ‘แตกต่างกัน' อย่างเห็นได้ชัด

โรงเรียน อบจ.ชัยนาท เคยเข้าชิงมาแล้วหนึ่งครั้ง มีประสบการณ์มากกว่า ขณะที่ โรงเรียนหมอนทองวิทยา มาพร้อมสตอรี่อันยิ่งใหญ่ เป็นโรงเรียนเล็ก ๆ ในตำบลหนึ่งของจังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่เป็นที่รู้จัก มีเพียงยอดโค้ชที่ผ่านสังเวียนมาอย่างโชกโชน แต่กลับทะลุมาถึงรอบชิงได้อย่างน่าอัศจรรย์

“สมรรถภาพ หรือการเวทเทรนนิ่งเด็กไม่มีเลย ใช้ถังข้าวยกเอา มันก็ลำบาก” ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ของอาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ ได้ให้สัมภาษณ์หลังลูกทีมพ่ายแพ้ต่อโรงเรียน อบจ.ชัยนาท ไป 2-1 ในรอบนัดชิง

ประเด็นนี้น่าสนใจ เพราะหากเรามองในเชิงกายวิภาคของเด็กทั้งสองทีมนั้น จะเห็นว่าเด็กหมอนทองตัวเล็กกว่า เปราะบางกว่า หนาน้อยกว่า แตกต่างจากแข้งจากอบจ.ชัยนาท ที่ล่ำบึ้ก ตัวใหญ่ ทนทาน มองปราดเดียวก็รู้ว่าได้รับการฝึกสมรรถภาพมาเป็นอย่างดี

ซึ่งการถูกฝึกร่างกายให้แข็งแรงนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่ฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะแข้งเยาวชนในระบบอาคาเดมี่ ซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาเมื่อวานจึงสะท้อนให้เห็นเลยว่าเด็กกลุ่มหนึ่งที่ถูกฝึกมาอย่างเป็นระบบ กับเด็กยังไม่ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นระบบนั้น แตกต่างกันอย่างไร

สตอรี่ทำนองนี้ ชวนให้นึกถึงมังงะจากญี่ปุ่นเรื่อง Ao Ashi แข้งเด็กหัวใจนักสู้ คือเป็นการปะทะกันระหว่าง ฟุตบอลชนบท กับ ฟุตบอลในระบบอาคาเดมี่ มังงะฟุตบอลเรื่องนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2015 โดย ยูโงะ โคบายาชิ ซึ่งตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Weekly Big Comic Spirits

เมื่อฟุตบอลชนบท ปะทะ เด็กอาคาเดมี่ ชวนดู Ao Ashi มังงะฟุตบอลญี่ปุ่น

Ao Ashi ฟุตบอลชนบท VS เด็กอาคาเดมี่

Ao ashi ว่าด้วยเรื่องราวของ อาชิโตะ อาโออิ เด็กหนุ่มมัธยมต้น (ม.3) ของทีมโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเอฮิเมะ ซึ่งอยู่ห่างจากโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นถึง 800 กิโลเมตร เด็กหนุ่มอาชิโตะนั้น คือผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลที่สูงจากการมองเห็นการเคลื่อนไหวของผู้เล่นในสนามได้อย่างกับรู้อนาคตล่วงหน้า

เมื่อฟุตบอลชนบท ปะทะ เด็กอาคาเดมี่ ชวนดู Ao Ashi มังงะฟุตบอลญี่ปุ่น

แต่กลับไม่รู้วิธีการใช้ความสามารถนั้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาชิโตะจึงตัดสินใจที่เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อมาเล่นฟุตบอลให้กับทีมเยาวชนของ โตเกียว ซิตี้ เอสพีเรียน ทีมฟุตบอลระดับเจลีก ตามความฝันของเขาที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

แต่เผอิญว่าตัวเขาเองนั้น คุ้นชินกับฟุตบอลชนบท หรือบอลบ้าน ๆ ยังไม่เคยสัมผัสคำว่าฟุตบอลอาคาเดมี่ หรือฟุตบอลอาชีพมาก่อน นั่นทำให้เขาไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมในตอนแรก แต่ท้ายที่สุด เขาก็ฝ่าฝันพาตัวเองเข้าไปยืนในการค้าแข้งในระดับอาชีพได้

เมื่อฟุตบอลชนบท ปะทะ เด็กอาคาเดมี่ ชวนดู Ao Ashi มังงะฟุตบอลญี่ปุ่น

Ao Ashi ถือเป็นมังงะฟุตบอลที่แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ เล็กน้อย เพราะไม่มีการใช้พลังเว่อร์ แต่เรื่องราวจะพาเราไปดูการเติบโตของอาชิโตะ อาโออิ จากนักเตะทีมโรงเรียนสู่ผู้ที่พร้อมจะก้าวสู่การลงเล่นฟุตบอลระดับอาชีพ

ซึ่งมังงะเรื่องนี้ได้สอดแทรกให้เห็นถึงความแตกต่างของนักเตะญี่ปุ่นที่เติบโตมาจากอคาเดมีของทีมฟุตบอลอาชีพ กับทีมฟุตบอลชนบทได้อย่างมีชั้นเชิง ซึ่งทั้งเรื่องก็ได้ฉายให้เห็นว่าการได้ผ่านระบบการฝึกแบบอาคาเดมี่นั้น ย่อมทำให้แข้งคนหนึ่งมีโอกาสเลื่อนไปสู่แข้งมืออาชีพในระดับแถวหน้ามากกว่า

แตกต่างจากฟุตบอลชนบท ที่ต้องฝึกฝนอยู่บนข้อจำกัดต่าง ๆ เดี๋ยวอาหารไม่ถึง โภชนการขาด อุปกรณ์ไม่มี อยู่ห่างไกลความเจริญ และเด็กแต่ละคนนั้นมีเดิมพันสูง แต่ดันไปฝันเท่ากับเด็กในระบบอาคาเดมี่ ซึ่งพรั่งพร้อมกว่าในหลาย ๆ มิติ

“เจ้าพวกนั้น (นักเตะอคาเดมี) เล่นฟุตบอลต่างจากเรา การที่พวกนั้นเติบโตมาจากระบบที่มีแต่การเล่นฟุตบอลที่เป็นแบบแผนอย่างนั้น มันทำให้พวกนั้นขาดความเป็นนักสู้ที่พร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อเป้าหมายยิ่งใหญ่ที่ตัวเองได้ตั้งไว้ พอถึงเวลาที่คับขันหรือเต็มไปด้วยความกดดัน พวกนั้นก็ทำอะไรไม่เป็นแล้ว” โทงาชิ ตัวละครหนึ่งจาก Ao Ashi เผยความในใจที่มีต่อเด็กอาคาเดมี่

ซึ่งอาจไม่จริงเสมอไป เพราะเดี๋ยวนี้ นอกจากสมรรถภาพด้านร่างกายแล้ว เด็กอาคาเดมี่ก็จิตใจแกร่งกล้า และสู้ไม่ถอยไปไม่น้อยกว่าฟุตบอลชนบท เพราะทุกคนมีความฝันเหมือนกัน แต่ใครจะไปถึงเป้าหมายได้ ก็สุดแล้วแต่โชคชะตา และโอกาสที่จะมาถึง

 

ที่มา: Real sound

ข่าวที่เกี่ยวของ

related