กรมสุขภาพจิต ชวนทำแบบทดสอบสุขภาพใจ วันนี้คุณรู้สึกอย่างไร

การเฝ้าระวังทางอารมณ์ตัวเองอยู่เสมอ จะเป็นเครื่องมือช่วยยับยั้ง ไม่ให้กลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตลุกลามส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของทั้งตัวเองและคนในสังคม 

จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต พบว่า สถิติการฆ่าตัวตายสำเร็จในประเทศไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จากในปี 2556 สัดส่วนอยู่ที่ 6.08 รายต่อแสนประชากรเพิ่มเป็น 7.37 รายต่อแสนประชากร ในปี 2563 และ ในปี 2564 ที่มีวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 7.8 รายต่อแสนประชากร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• Twitter แจ้งเตือนและช่องทางช่วยเหลือ เมื่อค้นหาคำเกี่ยวข้องการฆ่าตัวตาย

• HOPE Task Force นวัตกรรมช่วยลดการฆ่าตัวตาย เจอโพสต์อยู่ไม่ไหว...ให้บอกเรา

• กรมสุขภาพจิต ดึงสติสังคม เร่งเยียวยา วอนสื่อเลี่ยงชื่อคนร้าย กันเลียนแบบ

โดยองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ระบุว่า ประชากรโลกทุกๆ 8 คนจะมี 1 คน ที่ต้องเผชิญปัญหากับปัญหาสุขภาพจิต ข้อมูลที่เว็บไซต์ rocketmedialab.co รวบรวมเปิดเผยตัวเลขด้านบุคลากรและอัตราการเข้าถึงบริการทางจิตเวชของประชาชนทั่วประเทศ พบว่า ประเทศไทย รายงานจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช กรมสุขภาพจิต ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ระบุว่า ไทยมีจิตแพทย์รวม 845 คน คิดเป็นจิตแพทย์ 1.28 คนต่อแสนประชากร

ส่วน ในปี 2565 กรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ในประเทศไทยมีนักจิตวิทยารวมแล้ว 1,037 คน คิดเป็น 1.57 คนต่อแสนประชากร

ทั้งนี้ในปี 2564 จากสถิติพบว่า 5 อันดับโรคทางจิตเวชที่เข้ารับการรักษาตัวมากที่สุด ได้แก่ จิตเภท วิตกกังวล ซึมเศร้า ติดสารเสพติดอื่นๆ และติดแอลกอฮอล์

จากรายงานคลังข้อมูลการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับบริการด้านจิตเวช ระหว่างปี 2558-2564 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคทางจิตเวชเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจาก 1.3 ล้านคน
เป็น 2.3 ล้านคน

น่าเป็นห่วงว่าด้วยอัตราส่วนระหว่างผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตกับจำนวนประชากรนี้จะเป็นปัญหาที่ถ้าภาครัฐยังไม่เร่งแก้ไขหรือเพิ่มบุคคลากร ในอีกห้าปีข้างหน้าจำนวนประชาชนที่มีความเครียดในวันนี้จะสะสมความเครียดจนเป็นระเบิดเวลาที่รอการปลดปล่อยหรือไม่ 

สำหรับประชาชนทั่วไป หนึ่งในวิธีการพูดคุยกับหัวใจตัวเองเบื้องต้น เพื่อทบทวนและทดสอบสุขภาพใจกันก่อนที่จะพาตัวเองไปสู่ความเครียดสะสมที่เกินเส้นความควบคุมด้วยตัวเอง ชวนมาทำแบบทดสอบด้วยการตอบชุดคำถามจากกรมสุขภาพจิต ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที อาจช่วยค้นหาความไม่สบายใจที่มีตอนนี้ หรือ รับรู้อารมณ์ขุ่นหมองที่รบกวนจิตใจมานานที่ต้องการรับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการต่อไป

ตัวอย่างคำถามจากดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทยฉบับสมบูรณ์ 55 ข้อ ปีพ.ศ.2550 

เริ่มทำแบบทดสอบตรวจสอบสุขภาพจิตใจแบบ Online กันได้ที่ลิงก์ 
https://dmh.go.th/test/thaihapnew/thi54.asp

ทั้งนี้การตีความคะแนนจากดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทยฉบับสมบูรณ์ 55 ข้อ นั้นมีคะแนนเต็ม 220 คะแนน เมื่อผู้ตอบได้ประเมินตนเองแล้ว และรวมคะแนนทุกข้อได้คะแนนเท่าไร สามารถนำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ปกติที่กำหนดดังนี้
179-22  คะแนน            

หมายถึงมีสุขภาพจิตมากกว่าคนทั่วไป (Good)

158-178 คะแนน            

หมายถึงมีสุขภาพจิตเท่ากับคนทั่วไป (Fair)

157 คะแนนหรือน้อยกว่า

หมายถึงมีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไป (Poor)  

ในกรณที่ท่านมีคะแนนอยู่ในกลุ่มสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไป ท่านอาจช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น โดยขอรับบริการปรึกษาจากสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านของท่านได้

สำหรับใครที่มีเวลาไม่มากแต่อยากตรวจวัดสุขภาพจิตด้วยตัวเอง สามารถเลือกทำแบบทดสอบแบบสั้น 15 ข้อ ได้ที่ลิงก์ https://dmh.go.th/test/thaihapnew/thi15/asheet.asp?qid=1

นอกจากนี้ประชาชนทั่วไปสามารถทดลองทำแบบประเมินความเครียด (ST5) เพื่อเป็นการตรวจสอบระดับความเครียดเบื้องต้นเป็นกระบวนการเช็กและทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก ได้ที่ลิงก์ https://dmh.go.th/test/qtest5/