บรูซ วิลลิส Bruce Willis คนอึดในโลกภาพยนตร์ ในวันที่ อาการทรุด พูด อ่าน หรือเดินไม่ได้อีก - หลังป่วยโรคสมองเสื่อมรุนแรง
บรูซ วิลลิส เคยถูกถามว่า ตลอดการดำรงชีพเป็นนักแสดง เขาใช้คติอะไรในการขับเคลื่อนชีวิต ซึ่งวิลลิสตอบว่าคติของเขา คือการมีชีวิตอยู่เพื่อได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่ที่สุด
“’Live and let live - จงมีชีวิตอยู่ เพื่อการออกไปใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด คือสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดที่ผมมี มันใช้ได้กับแทบทุกสถานการณ์เลย ทั้งมีมุมขำขัน และมุมที่จริงจัง"
สำหรับในโลกภาพยนตร์ บรูซ วิลลิส คือสัญลักษณ์ของชายผู้ไม่เคยยอมแพ้ เขาคือ จอห์น แม็คเคลน ตำรวจเหล็กใน Die Hard ที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้และแต่สุดท้ายเขาจะผ่านมันได้เสมอ แต่วันนี้ นักแสดงระดับตำนานผู้นี้กำลังต่อสู้ในบทบาทที่ท้าทายที่สุดในชีวิตจริง ด้วยความกล้าหาญและศักดิ์ศรี ท่ามกลางความรักอันท่วมท้นจากครอบครัวและแฟน ๆ ทั่วโลก
แม้ร่างกายของเขาจะได้รับผลกระทบจาก โรคสมองเสื่อมส่วนหน้า (Frontotemporal Dementia - FTD) จนสูญเสียความสามารถในการพูด อ่าน หรือเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ มาตั้งแต่ปี 2022 แต่จิตวิญญาณของ "คนอึด" ยังคงส่องสว่างผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดของครอบครัว ทั้งภรรยาปัจจุบัน เอ็มมา เฮมิง วิลลิส, อดีตภรรยา เดมี มัวร์ และลูกสาวทุกคนที่รวมเป็นหนึ่งเป็นกำลังใจสำคัญ พวกเขาได้แบ่งปันเรื่องราวการต่อสู้ของวิลลิสอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรค FTD และแสดงให้เห็นถึงพลังของความรักที่อยู่เหนือทุกอุปสรรค
เขาคือสัญลักษณ์ของความทรหดอดทน เขาคือ จอห์น แม็คเคลน ใน Die Hard ชายธรรมดาที่ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ธรรมดาและลุกขึ้นสู้จนหยดสุดท้าย แต่วันนี้ การต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดของวิลลิสไม่ได้เกิดขึ้นบนจอภาพยนตร์ หากแต่เป็นการเผชิญหน้ากับโรคสมองเสื่อมส่วนหน้า อย่างเงียบๆ และสง่างาม ซึ่งบทบาทในชีวิตจริงครั้งนี้ ได้เผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือความกล้าหาญในความเปราะบางของมนุษย์
การต่อสู้ของเขาในวันนี้ไม่ได้ลดทอนความเป็นตำนานของเขาลงเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับยิ่งตอกย้ำถึงความเป็นมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังใบหน้าของฮีโร่ที่เราคุ้นเคย
น่าเสียดายที่วันนี้ ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ใน ปี 2025 "บรูซ วิลลิส" นักแสดงระดับตำนานแห่งฮอลลีวูด บนวัยแห่งประสบการณ์ 70 ปี เริ่มอาการทรุดหนักลง ตามวันเวลาและสังขารที่ทำหน้าที่ของมัน
หลายคนอาจจดจำ บรูซ วิลลิส จากบทบาทแอ็กชันสุดระห่ำ แต่เส้นทางของเขาเริ่มต้นจากความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ อาการพูดติดอ่างอย่างรุนแรงในวัยเด็ก วิลลิสเคยเล่าว่า "การแสดง" คือสิ่งที่ปลดปล่อยเขาจากปมด้อยนั้น เมื่อเขาอยู่บนเวที อาการติดอ่างจะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เขาก้าวข้ามความบกพร่อง แต่ยังจุดประกายความฝันในการเป็นนักแสดงอีกด้วย
ก่อนจะกลายเป็นดาวดังฮอลลิวู้ด - เขาเคยทำงานเป็นทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยและนักสืบเอกชน ประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชนเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้เขาสามารถถ่ายทอดบทบาทได้อย่างสมจริง ไม่ว่าจะเป็นนักสืบเจ้าเสน่ห์ในซีรีส์แจ้งเกิดอย่าง Moonlighting (1985–1989) หรือบทบาทตำรวจผู้ไม่ยอมจำนนใน Die Hard (1988) ซึ่งกลายเป็นภาพจำและทำให้คำว่า "คนอึด" กลายเป็นชื่อเรียกแทนตัวเขาในประเทศไทยไปโดยปริยาย
นอกเหนือจากภาพยนตร์ชุด Die Hard แล้ว บรูซ วิลลิส ยังฝากผลงานการแสดงอันน่าจดจำไว้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกับผู้กำกับเควนติน ทาแรนติโน่ ใน Pulp Fiction (1994), บทบาทที่หักมุมจนกลายเป็นตำนานใน The Sixth Sense (1999) หรือการสละชีวิตเพื่อมวลมนุษยชาติใน Armageddon (1998) ผลงานเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายที่นอกเหนือไปจากบทบาทแอ็กชัน
แม้กระทั่งในฐานะนักร้อง เขาก็เคยมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณศิลปินที่เปี่ยมล้นอยู่ในตัว
วันนี้ แม้เราจะไม่ได้เห็นผลงานใหม่ ๆ ของบรูซ วิลลิส บนจอภาพยนตร์อีกต่อไปแล้ว ด้วยสภาพร่างกาย แต่สิ่งที่เขามอบไว้ให้กับโลกภาพยนตร์และแฟน ๆ จะคงอยู่ตลอดไป เขาสอนให้เราเห็นว่าฮีโร่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่คือคนธรรมดาที่ลุกขึ้นสู้ในยามคับขัน
ในการต่อสู้ครั้งนี้ บรูซ วิลลิสไม่ได้สู้เพียงลำพัง เขามีครอบครัวที่แข็งแกร่งและแฟนหนังทั่วโลกที่พร้อมส่งกำลังใจให้เสมอ และถึงแม้เสียงของเขาจะเงียบลง แต่ผลงานและความเป็น "คนอึด" ของเขาจะยังคงดังกึกก้องอยู่ในหัวใจของพวกเราตลอดไป
แม้ร่างกายจะอ่อนแอลง แต่จิตวิญญาณของนักสู้ในตัว บรูซ วิลลิส จะยังคงเป็นที่จดจำและเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราตลอดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จักรวาลหนังหว่องกาไว รสชาติความเหงา ที่ Pop ในวันแสวงหาความหมายชีวิต
Pulp Fiction : ตำนานตัวละคร ซามูเอล แจ็กสัน ที่เกิดจากวิกผมผิดทรง