svasdssvasds

สรุปให้ ความขัดแย้งระหว่าง เจ.เค. โรว์ลิง ผู้เขียน Harry Potter และ เอ็มมา วัตสัน

สรุปให้ ความขัดแย้งระหว่าง เจ.เค. โรว์ลิง ผู้เขียน Harry Potter และ เอ็มมา วัตสัน

สรุปให้ เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เขียน Harry Potter กับ นักแสดง - ความขัดแย้งระหว่าง เจ.เค. โรว์ลิง และ เอ็มมา วัตสัน ที่จะดีกันไม่ได้อีกแล้ว มีสาเหตุจากอะไร

สรุปให้ ความขัดแย้งระหว่าง เจ.เค. โรว์ลิง และ เอ็มมา วัตสัน ที่จะดีกันไม่ได้อีกแล้ว ? 

ความสัมพันธ์ที่เคยเปรียบเสมือนครอบครัวระหว่างผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมแห่งยุคและนักแสดงผู้เป็นที่รักของคนทั่วโลก ได้เดินทางมาถึงจุดแตกหักที่ดูเหมือนจะยากต่อการประนีประนอม และกลับมาดีกัน 

นี่คือการปะทะกันระหว่างมุมมองด้านสตรีนิยมที่อิงกับเพศกำเนิด (Sex-based rights) และแนวคิดเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) ที่คนรุ่นใหม่ยึดถือ ซึ่งมี เจ.เค. โรว์ลิง นักเขียนนวนิยายชื่อดังของโลก Harry Potter  อย่าง  และ เอ็มมา วัตสัน  นักแสดงจาก Harry Potter  ในบทเฮอร์ไมโอนี่ เป็นตัวแทนของแต่ละฝ่าย
 

ย้อนดูจุดเริ่มต้นของความเห็นต่างเจ.เค. โรว์ลิง VS เอ็มมา


ชนวนเหตุของความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงปี 2019-2020 เมื่อ เจ.เค. โรว์ลิง แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะหลายครั้ง ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการต่อต้านสิทธิของสตรีข้ามเพศ (Transgender Women)

ธันวาคม 2019: เจ.เค. โรว์ลิง ทวีตสนับสนุน มายา ฟอร์สเตเตอร์ นักวิจัยที่ถูกเลิกจ้างเพราะแสดงความเห็นว่า "ผู้ชายไม่สามารถเปลี่ยนเป็นผู้หญิงได้" การสนับสนุนนี้ทำให้โรว์ลิงถูกมองว่ามีแนวคิดกีดกันคนข้ามเพศ
 

มิถุนายน 2020: เธอวิจารณ์บทความที่ใช้คำว่า "คนที่มีประจำเดือน" แทนคำว่า "ผู้หญิง" โดยยืนยันว่าเพศกำเนิด (Sex) เป็นความจริงแท้ ซึ่งจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเธอลบตัวตนของสตรีข้ามเพศ และทำให้เธอถูกขนานนามว่าเป็น "TERF" (Trans-Exclusionary Radical Feminist) หรือกลุ่มเฟมินิสต์ที่ไม่ยอมรับคนข้ามเพศ

เจ.เค. โรว์ลิง ปกป้องมุมมองของตนเอง โดยอ้างอิงถึงประสบการณ์เลวร้ายในอดีตที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้เธอไม่ไว้วางใจและรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะใช้พื้นที่ส่วนตัวร่วมกับคนที่มี "เพศกำเนิดเป็นชาย" เธอยืนยันว่านี่ไม่ใช่การเหยียด แต่เป็นการปกป้องพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตามเพศกำเนิด

รอยร้าว เจ.เค. โรว์ลิง VS  เอ็มมา วัตสัน ที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
 

เสียงจากนักแสดงแฮร์รี่ พ็อตเตอร์  : "คนข้ามเพศก็คือคนที่พวกเขาเป็น" 

หลังจากการแสดงจุดยืนของโรว์ลิง เหล่านักแสดงนำจากภาพยนตร์ Harry Potter ซึ่งเติบโตมาในยุคที่ความหลากหลายทางเพศเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นที่สวนทางกันอย่างชัดเจน

เอ็มมา วัตสัน ได้ทวีตข้อความสำคัญในปี 2020 ว่า:

"คนข้ามเพศก็คือคนที่พวกเขาบอกว่าตัวเองเป็น และสมควรได้ใช้ชีวิตโดยไม่ถูกตั้งคำถามหรือบอกว่าพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเป็น"

เช่นเดียวกับ แดเนียล แรดคลิฟฟ์  (คนเล่นบทแฮร์รี่ พ็อตเตอร์) ที่เขียนบทความตอบโต้ว่า "ผู้หญิงข้ามเพศก็คือผู้หญิง" การกระทำของนักแสดงนำทั้งสาม (รวมถึงรูเพิร์ต กรินต์ นักแสดงบท รอน วิสลี่ย์) ถูกมองว่าเป็นการขีดเส้นแบ่งอย่างชัดเจนระหว่างพวกเขากับผู้สร้างตัวละครที่ทำให้พวกเขามีชื่อเสียง

ความพยายามในการปรองดองของเอ็มม่า 

หลายปีผ่านไป ในบทสัมภาษณ์ผ่านพอดแคสต์กับ เจย์ เช็ตตี้ เมื่อเร็วๆ นี้ เอ็มมา วัตสัน ได้แสดงท่าทีที่อ่อนลงและดูเหมือนต้องการประนีประนอม เธอกล่าวว่า:

"ฉันไม่เชื่อเลยว่าการที่ฉันมีประสบการณ์นั้น... จะหมายความว่าฉันไม่สามารถหวงแหนโจ (โรว์ลิง) และคนที่ฉันเคยมีประสบการณ์ด้วยกันได้... ฉันหวังสุดหัวใจว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับฉันยังจะรักฉันได้ และฉันก็หวังว่าฉันจะยังรักคนที่เห็นต่างจากฉันได้เช่นกัน"

คำพูดนี้ถูกมองว่าเป็น "สะพานใจ" ที่เอ็มม่า วัตสันยื่นให้กับ เจ.เค. โรว์ลิง เป็นความพยายามที่จะแสดงความรักและความเคารพต่อบุคคลที่เคยมีความสำคัญในชีวิต แม้จะมีความเห็นต่างทางอุดมการณ์ก็ตาม

 การตอบโต้อย่างหนักหน่วงของโรว์ลิง: สะพานเชื่อมใจที่ถูกเผา

อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการปรองดองของวัตสันกลับไม่ได้รับการตอบรับในเชิงบวก เจ.เค. โรว์ลิง ได้เขียนข้อความตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนและตรงไปตรงมาผ่านทวิตเตอร์  ซึ่งเป็นการปฏิเสธความปรารถนาดีของวัตสันอย่างสิ้นเชิง โดยมีประเด็นสำคัญ :

ความสัมพันธ์ในอดีตไม่ผูกมัดปัจจุบัน: โรว์ลิงชี้ว่าเธอไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณหรือต้องเห็นพ้องกับนักแสดงที่เธอเคยร่วมงานด้วย

การวิจารณ์ที่เจ็บปวด : เธอมองว่าวัตสันและแรดคลิฟฟ์ (2นักแสดงนำแฮร์รี่ พ็อตเตอร์) ใช้สถานะของตนเองในการวิจารณ์มุมมองของเธอต่อสาธารณะ และมองว่าการกระทำของวัตสันเปรียบเสมือน "การเทน้ำมันลงกองไฟ" ในช่วงเวลาที่เธอถูกขู่ฆ่าและคุกคามอย่างหนัก

ขาดประสบการณ์ชีวิตจริง: เจ.เค. โรว์ลิงวิจารณ์ว่าวัตสัน ซึ่งเติบโตมากับชื่อเสียงและความร่ำรวย ขาดความเข้าใจในชีวิตของผู้หญิงทั่วไปที่ต้องเผชิญความเสี่ยงในพื้นที่สาธารณะ เช่น ห้องน้ำรวม หรือศูนย์พักพิง

คำพูดสุดท้ายที่ตัดขาด: โรว์ลิงสรุปอย่างชัดเจนว่า

" ผู้ใหญ่ไม่อาจคาดหวังได้ว่าจะสามารถเข้าร่วมกับขบวนการเคลื่อนไหวที่เรียกร้องให้สังหารเพื่อน แล้วก็ยังอ้างสิทธิ์ในความรักจากเพื่อนคนนั้นราวกับเพื่อนคือแม่ของตัวเองได้ เอ็มมามีสิทธิ์ที่จะไม่เห็นด้วยกับฉันและพูดถึงความรู้สึกของเธอต่อฉันในที่สาธารณะอย่างถูกต้อง — แต่ฉันก็มีสิทธิ์เดียวกัน และฉันก็ตัดสินใจใช้สิทธินั้นแล้วในที่สุด"

การตอบโต้ครั้งล่าสุดของ เจ.เค. โรว์ลิง ถือว่า ปิดฉากความพยายามในการปรองดองของเอ็มมา วัตสัน ลงอย่างสมบูรณ์ 

มันแสดงให้เห็นว่ารอยร้าวนี้ลึกเกินกว่าจะเป็นเพียงความเห็นต่าง แต่ได้กลายเป็นบาดแผลส่วนตัวที่เกิดจากการรู้สึกถูกหักหลังและถูกทอดทิ้งในยามวิกฤต

เหตุการณ์นี้สะท้อนภาพความขัดแย้งทางความคิดที่ใหญ่กว่าตัวบุคคล แต่เป็นสัญลักษณ์ของการปะทะกันระหว่างโลกทัศน์ของคนต่างรุ่นในประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุดเรื่องหนึ่งในยุคสมัยของเรา และน่าเศร้าที่จักรวาลเวทมนตร์ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ได้กลายเป็นสมรภูมิแห่งความขัดแย้งระหว่างผู้สร้างและผู้สืบทอดมรดกนั้นเสียเอง
 

ที่มา :  theguardian theguardian yahoo variety bbc

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related