svasdssvasds

Now You See Me 3 : การกลับมาที่ต้องมนตร์ กับมายากลที่ยังไม่หมดไฟ

Now You See Me 3 : การกลับมาที่ต้องมนตร์ กับมายากลที่ยังไม่หมดไฟ

รีวิวภาพยนตร์ Now You See Me 3 : การกลับมาที่ต้องมนตร์ กับมายากลที่ยังไม่หมดไฟ 9 ปีที่หายไป… และคำถามใหญ่ว่าเวทมนตร์ยังติดอยู่ในอากาศหรือเปล่า

การกลับมาที่ต้องมนต์: Now You See Me 3 กับมายากลที่ยังไม่หมดไฟ 

หลังจากทิ้งช่วงห่างหายไปนานถึงเก้าปีเต็ม (ภาคที่ 2 คือปี 2016) แฟรนไชส์ภาพยนตร์โจรกรรมที่ผสานความตื่นตาตื่นใจของโลกมายากลอย่าง "Now You See Me" ก็ได้โอกาสหวนคืนสู่จอใหญ่อีกครั้งในภาคที่สามที่มีชื่อว่า "Now You See Me: Now You Don’t" สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามการผจญภัยของกลุ่ม "จตุรอาชา" (The Four Horsemen) ตั้งแต่การปล้นธนาคารข้ามทวีปในภาคแรก (2013) ไปจนถึงการเปิดโปงความลับของ "The Eye" องค์กรนักมายากลโบราณในภาคสอง (2016) การกลับมาครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการนัดรวมญาติครั้งสำคัญ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความผูกพันและภารกิจใหม่ที่ยังน่าติดตามอยู่ 


ทีมเขียนบทระดับปรมาจารย์ และเสน่ห์ที่ไม่จางหาย

สิ่งที่น่าสนใจเป็นอันดับแรกสำหรับ Now You See Me 3 คือการรวมตัวของทีมนักเขียนบทระดับยอดฝีมือของฮอลลีวูด นำทัพโดย เรตต์ รีส (Rhett Reese) ผู้สร้างสรรค์ความแสบสันต์ให้กับหนังตระกูล Deadpool เสริมด้วย ไมเคิล เลสส์ลี (Michael Lesslie จาก The Rescue) และ เซ็ธ กราฮาห์ม (Seth Grahame จาก Beetlejuice Beetlejuice เวอร์ชั่นใหม่) การรวมพลังครั้งนี้ส่งผลให้พล็อตเรื่องของภาคนี้ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ดั้งเดิมที่พึงมีในหนังชุดนี้ นั่นคือการวางแผนที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนและการใช้มายากลเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม แม้ว่ามายากลบางอย่างอาจจะดูยิ่งใหญ่และซับซ้อน แต่บทภาพยนตร์ก็จัดการนำเสนอให้ผู้ชมสามารถเข้าที่เข้าทางและเข้าใจ 'ทริก' ต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าที่คิด

ต้องยอมรับว่าสำหรับผู้ชมหลายๆคน ความทรงจำเกี่ยวกับสองภาคแรกอาจเลือนรางไปตามกาลเวลา แต่เมื่อได้เห็นการกลับมาของตัวละครและเคมีที่คุ้นเคยเหล่านั้นอีกครั้ง ความรู้สึกผูกพันแบบเบา ๆ ก็หลั่งไหลกลับมาโดยอัตโนมัติ ราวกับเป็นการหวนกลับมาพบญาติมิตรที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี ความรู้สึกนี้เองที่เป็นใบเบิกทางชั้นดีสู่ห้วงภารกิจครั้งใหม่ของเหล่าจตุรอาชา

งานสร้างที่ยังคงยอดเยี่ยม แต่จังหวะการเล่าที่ยังกระท่อนกระแท่น ขาดเสน่ห์จาก 2 ภาคแรกไปนิด
แม้จะเริ่มต้นด้วยความรู้สึกดี ๆ แต่ก็ต้องสารภาพว่าในแง่ของสัดส่วนพล็อตเรื่องและโครงสร้างของบทหนังใน Now You See Me 3 อาจยังมีส่วนที่ ขาด ๆ เกิน ๆ อยู่ประมาณหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังภาคนี้ยังค่อนข้างกระท่อนกระแท่นในการลำเลียงเล่าเรื่องอยู่สักหน่อย ทำให้ 'กิมมิก' ที่ตัวหนังพยายามนำเสนอยังทำออกมาได้ไม่ถึงพริกถึงขิงได้เท่าที่ควร

Now You See Me 3 : การกลับมาที่ต้องมนตร์ กับมายากลที่ยังไม่หมดไฟ

ปัญหาด้านจังหวะ: ท่ามกลางการสร้างสถานการณ์และบรรยากาศที่ชวนลุ้นเต็มไปหมด บางครั้งพวกเขาก็ดูเหมือนจะลืมที่จะเน้นกลวิธีสร้างเสน่ห์ หรือการหยุดพักเพื่อให้ผู้ชมได้ซึมซับ 'ความฉลาด' ของแผนการไปแบบพลั้งเผลอ

อย่างไรก็ตาม ในด้านเทคนิคงานสร้างยังคงต้องชื่นชม จังหวะลีลาในการตัดต่อที่ฉึบฉับและเร้าอารมณ์คนดู ยังคงทำได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับการออกแบบโปรดักชันที่เจ๋งเหมือนเคย

การรวมทีมที่สมบูรณ์แบบ: เก๋าเกมส์และเจน Z

ไฮไลต์เด็ดที่สุดของ Now You See Me 3 คือการระดมนักแสดงชุดดั้งเดิมที่แทบจะหวนกลับมาครบถ้วน!

ทีมรุ่นเก๋า: เจสซี ไอเซนเบิร์ก, วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน, และ เดฟ ฟรันโก หวนกลับมารับบทบาทที่พวกเขาเคยทิ้งช่วงหายไปหลายปีได้อย่างคล่องตัว ขณะที่ อิสลา ฟิชเชอร์ ก็เป็นหนึ่งในทีมออริจินัลที่กลับมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึง เช่นเดียวกับรุ่นใหญ่อย่าง มอร์แกน ฟรีแมน ที่ยังคงเป็นหัวเรือหลักที่มั่นคงของหนังเสมอ

รุ่นเล็กเสริมทัพ: การเปิดตัวนักมายากลเจน Z อย่าง จัสตีส สมิธ, โดมินิก เซสซา และ อาริอานา กรีนแบลต นับว่าเป็นการปลดแอกสมาชิกใหม่ได้อย่างน่าพอใจ พวกเขาคือดาวรุ่งพุ่งแรงของฮอลลีวูดที่มาพร้อมกับฝีมือการแสดงจัดจ้าน สามารถต่อกรและร่วมแจมไปกับรุ่นพี่ได้อย่างกลมกล่อมลงตัวตลอดทั้งเรื่อง พร้อมกับเสน่ห์ที่เปล่งประกายซึ่งน่าจะไปต่อได้อีกสบายในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีตัวละครอีสเตอร์เอ้กที่หยอดเข้ามาเป็นกิมมิกให้แฟนหนังได้หายคิดถึง หนึ่งในนั้นคือบทบาทของ โรซามุนด์ ไพก์ (Rosamund Pike) ที่นับว่าเป็นตัวละครขโมยซีนที่จัดจ้าน แม้จะน่าเสียดายเล็กน้อยที่บทที่ยังใส่มิติเข้ามาให้กับเธอไม่เปี่ยมพลังทางการแสดงตามที่ควรจะเป็น

งานเลี้ยงรวมรุ่นที่มีพละกำลังที่ใช้ได้อยู่

โดยภาพรวมแล้ว Now You See Me: Now You Don’t จึงเปรียบเสมือนงานเลี้ยงรวมรุ่นที่เรียกรวมตัวละครต่าง ๆ และแฟนหนังให้ได้กลับมาพร้อมหน้าอีกหน หนังยังคงเซอร์วิสกิมมิกปัง ๆ เกี่ยวกับมายากลได้อย่างชวนตื่นตาตื่นใจได้เหมือนเคย แม้ว่าพล็อตหนังจะค่อนข้างขาด ๆ เกิน ๆ และยังไม่ถึงทางที่ควรจะเป็นอยู่บ้าง แต่ก็ต้องขอบคุณ เสน่ห์อันเหลือล้นของทีมนักแสดง ที่สามารถขนทัพกลับมาได้พร้อมเพรียง และเสริมด้วยดาราสมทบบทบาทใหม่ ๆ ที่มาช่วยเติมเต็มได้กลมกล่อม

หนังยังมีพละกำลังและเวทมนตร์ที่ใช้ได้อยู่ และตอบโจทย์แฟนคลับที่เฝ้ารอการกลับมาของเหล่าจตุรอาชาได้เป็นอย่างดี!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related