svasdssvasds

"มาดามเดียร์" เสนอรัฐบาลทบทวนเก็บภาษีหุ้น ได้ไม่คุ้มเสีย

"มาดามเดียร์" เสนอรัฐบาลทบทวนเก็บภาษีหุ้น ได้ไม่คุ้มเสีย

วทันยา บุนนาค "มาดามเดียร์" เสนอรัฐบาล ทบทวนการเก็บภาษีหุ้น ได้ไม่คุ้มเสีย อย่าเชือดไก่เพื่อเอาไข่ หากจะเก็บควรเป็นแบบ Capital Gain Tax อย่าเอาแต่สะดวกเข้าว่า

น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีกระทรวงการคลัง จะเดินหน้าเก็บภาษีการขายหุ้น (Financial Transaction Tax) โดยเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกฎหมายได้กำหนดไว้ว่า จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.1% ของมูลค่าที่ขาย โดยระบุว่า เก็บภาษีหุ้น ... เรากำลังจะเชือดไก่เพื่อเอาไข่กันอยู่รึเปล่า ?

ตื่นมาเช้านี้เจอแต่ข่าวร้ายเรื่องเศรษฐกิจ ดาวน์โจนส์ติดลบ 876 จุด บิตคอยน์ร่วงเหลือ 2.2 หมื่นดอลลาร์ ไม่นับตลาดหุ้นไทยที่รับข่าวร้ายดิ่งลงตามเศรษฐกิจโลก เข้าสู่ยุคผันผวน เงินเฟ้อหนักเป็นประวัติการณ์ในรอบ 13 ปีเพราะราคาต้นทุนที่เพิ่งสูงขึ้น วิกฤติโควิดผสมกับปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กลายเป็นปัญหายืดเยื้อ

ในขณะที่เอกชนไทยเตรียมออกหุ้นกู้ในปี 2565 จำนวน 1.2 ล้านล้านบาท นั่นคงเป็นสัญญาณให้เห็นถึงการเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจผันผวนของภาคเอกชนจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ การเตรียมระดมทุนเงินจำนวนมหาศาลของเอกชนนั้นยังบอกอะไรเราอีกหนึ่งอย่าง

นั่นก็คือ "ความสำคัญของตลาดทุน" ในการเป็นที่พึ่งพิงให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในยามที่ต้องพึ่งพิงตนเอง ไม่สามารถหวังพึ่งพารัฐได้

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

เดียร์ยังยืนยันขอให้รัฐบาลทบทวนว่า การเก็บภาษีตลาดทุนนั้น หากรัฐจะดำเนินการรัฐควรพิจารณาการเก็บภาษีแบบ Capital Gain Tax เพื่อความเป็นธรรมสำหรับนักลงทุนที่ต้องชำระค่าภาษี มากกว่าการเก็บภาษีการซื้อ-ขาย เพียงเพราะหน่วยงานสามารถทำงานสะดวกกว่า

แต่สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่ภาครัฐจะดำเนินการนโยบายใดก็ตาม ที่จะสร้างผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง รัฐต้องไม่ลืมคำนึงถึง ความเหมาะสมของนโยบาย

การเก็บภาษีหุ้นที่จะส่งผลกระทบถึงตลาดทุนของประเทศไทย อย่างแน่นอนในขณะที่สภาพเศรษฐกิจและประชาชนกำลังเจอวิกฤติรุมเร้า

การเลือกผลักดันนโยบายดังกล่าวท่ามกลางวิกฤตินั่นคือ สิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือ ?

เราเข้าใจว่ารัฐบาลเองก็ต่างมีภาระที่ต้องดูแลประชาชนทั่วทุกกลุ่ม แต่เม็ดเงินจำนวนประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่รัฐคาดว่าจะเก็บได้จากการรีดภาษีหุ้นกับคนรวย

ที่หากเราดูมิตินี้เพียงด้านเดียวก็พอจะเข้าใจถึงเหตุผลของรัฐบาล แต่ในข้อเท็จจริงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดทุน ซึ่งสุดท้ายก็จะกลายเป็นปัญหาวนกลับมาที่ประชาชนเหมือนเดิมนั้นคือ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่รัฐต้องไม่มองข้าม

พร้อมทิ้งท้ายว่า เหมือนอย่างที่เดียร์เคยนำเสนอว่า อย่าให้ต้องเชือดไก่ เพื่อเอาไข่ กับการตัดสินใจเพียงมิติเดียว เพราะเม็ดเงินจำนวน 20,000 ล้านบาท ที่ได้มาอาจไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องเสียไป

โดยเฉพาะเงินจำนวน 20,000 ล้านบาท ที่ว่านั้น สามารถลดภาระได้เพียงการลดต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่จำเป็นของรัฐ(ที่มีมากมาย) ในระหว่างที่กรรมาธิการงบประมาณกำลังพิจารณาอยู่ในตอนนี้

related