ในปี 1940 "แฮตตี แม็กแดเนียล" สร้างประวัติศาสตร์ เป็นคนดำคนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์มาครองได้สำเร็จ ! สปริงส์พาไปย้อนเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมดูว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวทีออสการ์มอบรางวัลให้กับคนดำไปแล้วกี่คน?
เชื่อว่าใครที่พอติดตามอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาบ้างอาจเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ “Gone with the Wind” หรือในชื่อไทยว่า “วิมานลอย” ภาพยนตร์ระดับตำนานที่ผ่านมา 85 ปี ก็ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง
“เถอะน่ะ...แล้วพรุ่งนี้ก็จะสว่างอีกครั้ง” ประโยคปิดจบเรื่องราวของ Gone with the Wind
วิมานลอยเป็นเจ้าของรางวัล “Best Picture” ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 12 ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์สีเรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลนี้ได้ และหากรวมรางวัลทั้งหมดแล้ว ในค่ำคืนนั้น Gone with the Wind กวาดรางวัลออสการ์กลับไปนอนกอดที่บ้านได้ทั้งสิ้น 10 รางวัล
“วิมานลอย” ถูกดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันจากนักเขียน มาร์กาเร็ต มิตเชลล์ นักเขียนชาวอเมริกันผู้เหน่งหน่ายกับการอยู่บ้านเฉย ๆ จึงใช้เวลาว่างเพื่อแต่งนิยาย กระทั่งเกิดเป็น “Gone with the Wind” นิยายเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายของเธออีกด้วย
วิมานลอยว่าด้วยเรื่องราวความรักท่ามกลางสงครามกลางเมืองในสหรัฐฯ ที่ฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ห้ำหั่นกัน โดยเรื่องโฟกัสไปที่ตัวละครเอก สการ์เล็ต โอฮารา (วิเวียน ลีห์) ลูกสาวเจ้าของไร่ฝ้ายในรัฐจอร์เจีย ที่มีการใช้แรงงานทาส และมีตัวละครคนรับใช้ผิวดำ (แฮตตี แม็กแดเนียล) คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง
แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่มีการถกเถียงในหลากหลายแง่มุม บ้างว่าเป็นสุดยอดภาพยนตร์แห่งยุคสมัย แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มีเช่นกัน จอห์น ริดลีย์ ผู้เขียน “12 Year A Slave” ก็ได้ฉะภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้อย่างแสบสัน โดยบอกว่า
"ภาพยนตร์เรื่องนี้มองข้ามความโหดร้ายของยุคทาส และได้ตรึงความเจ็บปวดของคนดำไว้ตลอดกาล”
ดังนั้น สปริงส์ถือโอกาสหยิบเรื่องราวเบื้องหลังชัยชนะของแฮตตี แม็กแดเนียลมาเล่าสู่กันฟัง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น รวมถึงดูว่าสัดส่วนผู้ชนะคนดำบนเวทีออสการ์มีมากน้อยแค้ไหน
แฮตตี แม็กแดเนียล เกิดวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1893 ที่เมืองวิชิตา รัฐแคนซัส เธอเกิดมาในครอบครัวใหญ่ พ่อเป็นทหารผ่านศึก และเธอเป็นลูกคนที่ 13 ด้วยความที่ครอบครัวมีกันหลายคน ชีวิตความเป็นอยู่-ปากท้องดำเนินไปอย่างอัดคัต
หลังจากนั้น ในช่วงปี 1901 แฮตตีในวัยเยาว์ก็เริ่มฉายแวว เธอเริ่มร้องเพลงที่โบสก์ เต้นรำ และแสดงละครที่โรงเรียน แถมมีเรื่องเล่าว่าเพื่อน ๆ ก็ถูกอกถูกใจการร้องรำทำเพลงของแฮตตีไม่น้อย
เหมือนกับว่าสิ่งที่เธอเป็นในวัยเด็กกำลังทำนายฉายภาพในอนาคตของแฮตตียังไงยังงั้น...
ในปี 1940 ณ งานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 12 แฮตตี แม็กแดเนียล ซึ่งขณะนั้นอายุ 46 ปี ถูกเรียกขานเสียงดังกึกก้องว่าเธอคือผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Suppporting Actress) จากบทบาท Mammy
“มันทำให้ฉันรู้สึกถ่อมตัวมาก รางวัลนี้แด่คนดำและอุตสาหกรรมภาพยนตร์" แฮตตี แม็กแดเนียล กล่าวขณะขึ้นรับรางวัลออสการ์
คงไม่ต้องเอื้อนเอ่ยกันอีกสำหรับชะตากรรมที่คนดำต้องต่อสู้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในยุคนั้น มีการเอารัดเอาเปรียบ กีดกัน และเหยียดเชื้อชาติกันอย่างออกนอกหน้า
แต่เมื่อแฮตตีถูกท้วงติงว่า ทำไมเธอถึงลดเกียรติ คุณค่าของตัวเอง และยอมไปรับบทสาวใช้รองมือรองเท้าให้พวกคนขาว แฮตตีตอบกลับไปว่า
"ฉันยอมเล่นบทคนใช้เพื่อรับเงิน 700 เหรียญ ดีกว่าไปเป็นคนใช้แล้วรับเงินแค่ 7 เหรียญ"
ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวถูกตีความกันไปต่าง ๆ นานา บ้างว่าเธอลืมชาติพันธุ์ และรากเหง้าความเป็นคนดำของตัวเอง หรือฝ่ายที่สนับสนุนแฮตตีก็จะแก้ต่างว่า แฮตตีกำลังเสียดสีประชดประชันถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างสีผิวในสังคมสหรัฐฯ ต่างหาก
นี่ถือเป็นหมุดหมายครั้งสำคัญของคนดำบนอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก ซึ่งแฮตตี แม็กเดเนียล ได้สร้างประวัติศาสตร์เอาไว้ ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลกมากมาย
นับตั้งแต่ปี 1929 อันเป็นปีซึ่งมีการจัดงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 1 ล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 94 ปี มีผู้ชนะรางวัล Academy Awards กว่า 3,000 รายชื่อ แต่รู้หรือไม่ว่า มีคนดำเพียง 63 คนเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลมาครองได้
*หมายเหตุ รายชื่อด้านล่างสปริงส์จัดเรียงตามสาขารางวัลที่ได้
แม้จะเป็นสาวใช้คนดำผู้เขย่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่หลังจากนั้นชีวิตของแฮตตีก็เรียกว่าไม่ได้อู้ฟู่จากชื่อเสียงเท่าไรนัก มีบันทึกว่าแฮตตีรับจ๊อบคอยเอนเตอร์เทนทหารอเมริกันในช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ
ในปี 1951 แฮตตีมีโอกาสได้ทำรายการโทรทัศน์ชื่อว่า The Beulah Show แต่จู่ ๆ เธอก็เกิดอาการหัวใจวายขึ้นมา กระทั่งเธอตัดสินใจถอนตัวจากรายการ ขณะนั้นเอง พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก แพทย์วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม
16 ตุลาคม 1952 แฮตตี แม็กเดเนียล จากโลกนี้ไปในวัย 59 ปี...
ที่มา: Entertainment Weekly
ข่าวที่เกี่ยวข้อง