รู้จัก อุโมงค์ลับ ฉนวนกาซา เขี้ยวเล็บที่แฝงเร้นของฮามาส ใช้รับมืออิสราเอล
ทำความรู้จัก อุโมงค์ลับ อุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งการมีอุโมงค์ลับใต้ดินของกลุ่มฮามาสนั้น ถือเป็นความท้าทายกองทัพอิสราเอล ในการใช้ศักยภาพการรบทั้งหมด ในการบุกเข้าโจมตี ในสงครามการปะทะกัน รอบล่าสุด นับตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2566
สงครามครั้งนี้ ระหว่าง อิสราเอล กับ กลุ่มฮามาส คงจะหาจุดจบ ได้ยาก...เพราะมันจะยืดเยื้อแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แบบไม่มีวันจบ ไม่มีวันเจอสันติภาพที่แท้จริง...เมื่อมีคนตายเพิ่มจำนวนมหาศาล ทั้ง 2 ฝั่งคู่ขัดแย้งก็จะหาทางเจรจาหยุดยิง , จากนั้น เมื่อ สงบ ไปสักระยะ ก็จะมี ชนวนเหตุ ปะทุขึ้นมาใหม่ อีกรอบ ,และอีกรอบ เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยไปแบบวนลูป และทั้งคู่ ก็อยากรบ อยากชน กันอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จากข้อมูล ที่ระบุออกมาตามหน้าสื่อนั้น ชี้ตรงกันว่า ในฉนวนกาซา มีเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่สลับซับซ้อน ซึ่งเชื่อว่าซ่อนอยู่ใต้ดิน ทอดยาวอยู่ใต้ดินแดนที่มีประชากรหนาแน่น มีความยาวเพียง 41 กม. และกว้าง 10 กม. เเต่ขอบเขตที่แท้จริงของอุโมงค์ใต้ดินนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาอย่างเป็นทางการ
ในฉนวนกาซา มี อุโมงค์ลับที่ถูกขุดใต้แนวชายแดนอียิปต์-กาซา ถูกขุดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการปิดล้อมฉนวนกาซาอิสราเอล เพื่อลักลอบนำเชื้อเพลิง อาหาร อาวุธ และสินค้าอื่นๆ เข้ามาในฉนวนกาซา อุโมงค์เหล่านี้มีเป็นพันแห่ง เฉพาะฝั่งที่เจาะไปยังอียิปต์เคยมีมากถึง 1,200 แห่ง แต่มันยังมีเป้าหมายในด้านการทหารด้วย เพื่อใช้บุกเข้าไปในอิสราเอล และรบแบบสายฟ้าแลบเพื่อทำลายขวัญกำลังใจอีกฝ่าย
โดย รายงานของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ประจำปี 2015 ระบุว่าระหว่างปี 2007 ถึง 2013 มีอุโมงค์มากกว่า 1,532 แห่งถูกขุดอยู่ใต้ชายแดนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปิดล้อมฉนวนกาซา ปริมาณการค้าขายผ่านอุโมงค์นั้นใหญ่กว่าปริมาณการค้าผ่านช่องทางการเสียอีก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะช่องทางทางการถูกปิด ถูกห้ามจากการปิดล้อมโดยอิสราเอลทุกๆด้าน และทางการอียิปต์ก็มักจะปิดด่านบ่อยๆด้วย ทำให้ผู้คนในฉนวนกาซาต้องอยู่กันอย่างแร้นแค้นเรื่อยมา
ข้อมูลจากฝั่งคู่สงคราม อย่าง อิสราเอล , จาก กองทัพอิสราเอล IDF ชี้ว่า ปฏิบัติการของกองกำลังภาคพื้นดิน (ทหารบก) และทางอากาศ ของ IDF (ไอดีเอฟ) ตามแนวรั้วรักษาความปลอดภัยและในฉนวนกาซา ค้นหาอุโมงค์และจุดเชื่อมต่อ อุโมงค์ถูกซ่อนไว้อย่างดีและอุโมงค์ของฮามาสมักจะอยู่ใต้สิ่งก่อสร้างพลเรือนหรือพื้นที่เปิดโล่ง
โดยการก่อสร้างอุโมงค์ในฉนวนกาซาเกิดขึ้นก่อนที่อิสราเอลจะถอนทหารและผู้ตั้งถิ่นฐานในปี 2005 แต่ได้รับแรงผลักดันหลังจากที่กลุ่มฮามาสควบคุมฉนวนกาซาในอีกสองปีต่อมา หรือในปี 2007 อุโมงค์ใต้ดินในฉนวนกาซาเหล่านี้ ตอนแรกทำหน้าที่เป็นช่องทางขนสินค้า เชื้อเพลิง และอาวุธ เพราะพื้นที่ฉนวนกาซานั้น ถูกอิสราเอล ปิดล้อมไว้ทุกด้าน , แต่วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ได้พัฒนาไปตามกาลเวลา
ไทม์ส ออฟ อิสราเอล รายงานว่า กลุ่มฮามาส ใช้อุโมงค์ในการโจมตีครั้งแรกในปี 2003 โดยขุดใต้ที่มั่นของอิสราเอลภายในวงล้อม และจุดชนวนระเบิดทรงพลังที่อยู่เบื้องล่าง ในปี 2006
ในปี 2013 กองกำลังอิสราเอล ค้นพบอุโมงค์ยาว 1.6 กม. และลึก 18 ม. ซึ่งเชื่อมจากฉนวนกาซาไปยังพื้นที่ใกล้กับคิบบุตซ์ ใน กาฟาร์ อซา ของอิสราเอล
อุโมงค์ข้ามชายแดนและในฉนวนกาซาถูกใช้อย่างกว้างขวางในช่วงสงครามฉนวนกาซาปี 2014 แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ากลุ่มฮามาสจะเลิกพึ่งพาอุโมงค์เหล่านั้นแล้ว เช่นเดียวกับที่อิสราเอลค้นพบได้ดีขึ้น
ในช่วงหลังๆ มานี้ ในปี 2021 แผงกั้นคอนกรีตใต้ดินซึ่งมีเซ็นเซอร์ตรวจจับต่อต้านอุโมงค์ที่ซับซ้อน ซึ่งอิสราเอลติดตั้งเสร็จเมื่อปลายปีนั้น งบประมาณกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจสร้างแผงกั้นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสงครามฉนวนกาซาในปี 2557 ซึ่งเป็นที่รู้จักในอิสราเอลในชื่อ Operation Protective Edge ซึ่งเน้นไปที่การตอบโต้ภัยคุกคามจากอุโมงค์เป็นหลัก
หลังความขัดแย้งในปี 2021 กองทัพอิสราเอล หรือ IDF ระบุว่าได้ทำลายอุโมงค์มากกว่า 100 กม. ในการโจมตีทางอากาศ แต่ขณะเดียวกัน กลุ่มฮามาสอ้างว่าอุโมงค์ทอดยาว 500 กม. และมีเพียง 5% เท่านั้นที่ถูกโจมตี นั่นแปลว่า หากเชื่อข้อมูลตามฮามาส ยังเหลืออุโมงค์ใต้ดินอยู่ 475 กิโลเมตร (หรือเทียบความยาวให้เห็นชัดเจน คือ การขับรถจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัด มหาสารคาม)
หากยึดตามข้อมูลของฝั่งฮามาสแล้ว , อุโมงค์ใต้ดิน ก็ยังถือเป็นแหล่งซ่องสุมกำลังพลของกลุ่มติดอาวุธฮามาสได้อีก
แต่ ไม่ว่าผลของสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในครั้งนี้ ในปี 2023 จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนผ่านที่จะทำให้ฉนวนกาซาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...เพราะ มันมี "ราคาที่ต้องจ่าย" อีกมาก
และที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ ชีวิตที่สูญเสียไป เพราะ ณ เวลานี้ มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซา และ ปาเลสไตน์ มากกว่า 2,700 คนแล้ว ขณะที่ ในอิสราเอลมากกว่า 1,400 คน...และแต่ละชีวิต มันคือ ราคา ที่ประเมิน ค่าไม่ได้
ที่มา : bbc.com กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
