SHORT CUT
เมือง Columbia กับ American Exceptionalism สุดโต่ง: ภาพสะท้อนการเมืองจาก BioShock Infinite เทียบยุคทรัมป์ครองอเมริกา
BioShock Infinite เป็นวิดีโอเกมที่เล่าเรื่องเมืองลอยฟ้า Columbia ในปี ค.ศ. 1912 ซึ่งภายนอกดูเหมือนยูโทเปียอันรุ่งโรจน์ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยแนวคิด American Exceptionalism อย่างสุดโต่ง
ความเชื่อว่าชาติอเมริกันนั้นพิเศษเหนือผู้อื่นอย่างเกินขอบเขต โคลัมเบียถูกปกครองด้วยลัทธิคลั่งศาสนาและชาตินิยมที่ผสมผสานกันอย่างเข้มข้น มีการบูชาบุคคลและอุดมการณ์อย่างสุดขั้ว ประชาชนเชื่อว่าเมืองตนคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าคัดเลือกให้เหนือกว่าโลกเบื้องล่าง ทุกมุมเมืองประดับไปด้วยสัญลักษณ์ทางศาสนาและชาติ ตั้งแต่รูปปั้นบูชาผู้นำและบรรพบุรุษอเมริกา ไปจนถึงธงโคลัมเบียที่ดัดแปลงจากธงชาติสหรัฐฯ ให้มีดาวเดียวเป็นสัญลักษณ์ว่าตนคือชาติเอกเทศหนึ่งเดียวในโลกใหม่
บทความนี้จะวิเคราะห์การเมืองและนัยยะต่างๆ ของเมือง Columbia ที่ดูไปดูมาก็มีความคล้าย การเมืองแบบ 'โดนัลด์ ทรัมป์' ที่เน้นอเมริกาต้องมาก่อน
เมืองโคลัมเบียถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 1893 ให้เป็นเสมือนนิทรรศการแห่งอุดมการณ์ทางการเมืองและศาสนาแบบอเมริกา โดยเมืองนี้ได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชในปี ค.ศ. 1902 ภายใต้การนำของ “ศาสดา” แซคคารี่ คอมสต็อค (Zachary Comstock) ผู้ก่อตั้งเมืองและผู้นำเผด็จการ
ยิ่งไปกว่านั้น โคลัมเบียยกย่องบรรพบุรุษผู้สร้างชาติอเมริกา (George Washington, Thomas Jefferson, Benjamin Franklin) ประหนึ่งนักบุญ และผู้นำคอมสต็อคก็ถูกเคารพบูชาเสมือนผู้วิเศษที่พูดโดยพระเจ้าเอง ประชาชนที่นี่สวดภาวนาและเชื่อในคำพยากรณ์ของคอมสต็อค โดยมองว่าโคลัมเบียคือ “สวนเอเดนใหม่” ของมนุษยชาติ ผู้คนในเมืองเชื่อว่าตนเป็นชนชาติที่พระเจ้าเลือกสรร และมองโลกเบื้องล่าง ด้วยความเหยียดหยามว่าเป็นดินแดนบาปทราม หรือที่พวกเขาเรียกว่า “โสโดมเบื้องล่าง” ขณะที่โคลัมเบียเปรียบตนเองเป็น “สวรรค์แห่งใหม่” ที่จะช่วยกอบกู้อารยธรรมมนุษย์
การแบ่งแยกชนชั้นและเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรง ภายใต้ฉากหน้าแห่งความรุ่งโรจน์ Columbia คือระบอบเหยียดผิวและกดขี่ชนชั้นอย่างเป็นระบบ ประชากรผิวขาวเชื้อสายยุโรปที่เกิดในอเมริกา (“ชาวอเมริกาโดยกำเนิด”) ได้รับสิทธิและอภิสิทธิ์ทุกอย่าง ขณะที่ผู้คนเชื้อชาติอื่นและชนชั้นแรงงานถูกกดให้อยู่ฐานะต่ำต้อย คนผิวดำ ชาวเอเชีย ชาวไอริช และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ถูกตีตราว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง หลายคนถูกบังคับใช้แรงงานอย่างโหดร้ายในโรงงานของนายทุน
แม้ Columbia จะอ้างตัวว่าเป็นนครรัฐเอกราชที่ยึดมั่นในเสรีภาพแบบอเมริกัน แต่แท้จริงแล้วกลับปกครองด้วยระบอบเผด็จการศาสนานคร (Theocracy) ที่มีคอมสต็อคเป็นทั้งผู้นำทางการเมืองและศาสนาอย่างเบ็ดเสร็จ คอมสต็อคใช้สถานะ“ศาสดา”สร้างความชอบธรรมให้ตนเองในการออกกฎควบคุมทุกมิติของชีวิตผู้คน พร้อมทั้งโฆษณาชวนเชื่อว่าทุกนโยบายที่เข้มงวดนั้นคือพระประสงค์ของพระเจ้าและเพื่อปกป้องเสรีภาพของชนชั้นนำ “เสรีภาพ” ในโคลัมเบียจึงมีไว้สำหรับบางกลุ่มเท่านั้น คือเสรีภาพในการรักษาอำนาจของชนผิวขาวผู้ศรัทธาคอมสต็อค ส่วนชนชั้นล่างและคนต่างเชื้อชาติกลับไม่ได้รับสิทธิเสรีภาพพื้นฐานเลย
แม้เหตุการณ์ใน BioShock Infinite จะเป็นเรื่องแต่ง แต่แก่นความคิดหลายอย่างของ Columbia กลับมีความคล้ายเล็กๆ กับช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นกระแสชาตินิยม “อเมริกาต้องมาก่อน” การแบ่งแยกทางสังคม-เชื้อชาติ หรือวาทกรรมทางการเมืองที่ร้อนแรงแบ่งคนออกเป็นฝักฝ่าย ดังจะวิเคราะห์เปรียบเทียบต่อไปนี้
ทรัมป์เข้าสู่อำนาจพร้อมกับคำขวัญ “Make America Great Again” หรือ “ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ซึ่งสะท้อนแนวคิด American Exceptionalism ในแบบฉบับของเขาเองอย่างชัดเจน นั่นคือความเชื่อว่า สหรัฐฯ คือชาติที่ยิ่งใหญ่ โดยตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่ง
นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังพยายามส่งเสริมการศึกษาเชิงรักชาติ โดยในปี 2021 เขาสนับสนุน “โครงการ 1776” เพื่อเน้นการสอนประวัติศาสตร์อเมริกาที่เชิดชูบรรพบุรุษผิวขาว เพื่อสร้างภาพให้อเมริกาดูยิ่งใหญ่ ให้โรงเรียนเน้น คุณงามความดีของบรรพบุรุษอเมริกัน เช่น จอร์จ วอชิงตัน และอับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งนักวิชาการจำนวนมากมองว่าเป็น “โฆษณาชวนเชื่อ” มากกว่างานประวัติศาสตร์จริง
หนึ่งในความคล้ายคลึงที่เด่นชัดระหว่าง Columbia กับสมัยทรัมป์คือ ทัศนคติต่อ “ผู้อื่น” ที่อยู่นอกกลุ่ม ที่มองคนต่างเชื้อชาติด้วยความระแวง ในนคร Columbia คนผิวสี ชาวต่างชาติ และผู้อพยพถูกตราหน้าว่าเป็น “ตัวปัญหา” ของสังคมจนต้องถูกกดขี่ให้อยู่ใต้การควบคุม คล้ายกับในยุคทรัมป์ที่นโยบายหลายอย่างสะท้อนการต่อต้านคนต่างชาติและผู้อพยพอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้สร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก การออกคำสั่งห้ามผู้เดินทางจากประเทศมุสลิมบางประเทศเข้าประเทศ หรือการลดจำนวนผู้ลี้ภัยที่จะรับเข้าประเทศอย่างมาก และจับผู้อพยพ ทุกมาตรการส่งสัญญาณว่า “อเมริกามีไว้สำหรับชาวอเมริกามากขึ้น”
สาวกทางการเมืองของทรัมป์หลายคนแสดงความภักดีส่วนตัวต่อเขาอย่างเหนียวแน่น นักวิเคราะห์บางรายถึงกับชี้ว่าฐานเสียงของทรัมป์มีลักษณะคล้าย “ลัทธิ” ส่วนบุคคล ซึ่งเปรียบได้กับลัทธิบูชาผู้นำของคอมสต็อคในเกม
นักจิตวิทยา "เอลิซาเวตา เกาฟ์แมน (Elizaveta Gaufman)" และ "เอเดรียน ฟาเวโร (Adrian Favero)" กล่าวไว้ในบทความ Trump’s Personality Cult Plays a Part in His Political Appeal” ว่า : “แม้ทรัมป์มีพฤติกรรมสุดโต่ง แต่ฐานแฟนคลับของเขามีความภักดีในลักษณะเหมือนลัทธิขึ้นรอบตัวเขา”
เมือง Columbia ในเกม BioShock Infinite คือภาพจำลองของอเมริกานิยมสุดโต่งที่ผสมผสานศาสนา ชาตินิยม และการเหยียดเชื้อชาติเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ฉากหน้าแห่งอุดมคติที่สวยงามกลับซ่อนความอยุติธรรมและความรุนแรงไว้เบื้องหลัง
ทั้งนี้ แม้ภาพประเทศสหรัฐฯ ในปัจจุบันยุคของทรัมป์ จะไม่ได้เลวร้ายและสุดโต่งถึงขั้นนั้น สังคมสมมติแห่งนี้ก็เป็นภาพสะท้อนและคำเตือนถึงโลกความเป็นจริงว่าหากปล่อยให้ลัทธิคลั่งชาติและอคติครอบงำ สังคมก็อาจเดินซ้ำรอยสู่ความโหดร้ายแบบเดียวกันได้อย่างไม่รู้ตัว
ที่มา : bioshock,
ข่าวที่เกี่ยวข้อง