หน้าที่การทำงานแบบไหนที่ Generative AI จะเข้าไปแทนที่แรงงานคน

ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็มซี ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ Generative AI ให้ฟังว่า Generative AI ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายอาชีพ

โดยเฉพาะอาชีพที่เกี่ยวกับการสร้างเนื้อหา การใช้ข้อมูล เช่น การสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติ การเขียนบทความ และการสร้างเนื้อหาที่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางวิชาการ ผมลองถาม ChatGPT ให้คาดการณ์ว่า Generative AI จะกระทบต่ออาชีพอะไรบ้าง

การเขียนเนื้อหา

ด้วยความสามารถของ Generative AI ในการสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเขียนเนื้อหาอาจจะได้รับผลกระทบ ตั้งแต่การเขียนบทความ จนถึงการเขียนหนังสือ นิยาย และสื่ออื่นๆ

การออกแบบกราฟิก

การนำ Generative AI มาใช้เพื่อสร้างและแก้ไขภาพด้วยความถูกต้องและความรวดเร็ว ทำให้อาชีพในการออกแบบกราฟิกอาจจะได้รับผลกระทบ เช่น การออกแบบโลโก้ การสร้างภาพประกอบ และอื่นๆ

การสร้างสื่อเสียง

Generative AI สามารถสร้างเสียงและเพลงที่คุณภาพสูงและได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ซึ่งสามารถเข้ามามีผลกระทบในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสียง และผลิตเพลง

การแปลภาษา

เรื่องของงานแปล ถือว่าสามารถใช้ในการแปลภาษาอัตโนมัติ ที่มีความถูกต้องเชื่อถือได้ และสามารถปรับปรุงผลลัพธ์ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อการเข้าถึงข้อมูลและสื่อสารทั่วโลกในอนาคต อาชีพที่เกี่ยวกับการแปลภาษาอาจได้รับผลกระทบ

การพัฒนาโปรแกรม

Generative AI สร้างโค้ดได้อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการเขียนโปรแกรม และให้ผลลัพธ์ที่สามารถทดสอบและปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• ตอบทุกข้อสงสัยกับ ChatGPT ไมโครซอฟท์ย้ำ "ไม่ได้มาแทนคน" แค่ทำงานให้ดีขึ้น
• ChatGPT แชทบอท AI เก่งจนสอบติดวิศวกรของ Google ได้เงินเดือนกว่า 500,000 บาท
• ไม่รอด! สแกมเมอร์บุก ChatGPT ปั่น AI ไว้หลอกลวงผู้คน

การบริการลูกค้า

การตอบคำถามจากลูกค้าที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ โดยอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าอาจจะได้รับผลกระทบ ตั้งแต่การตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า จนถึงการประเมินความพึงพอใจของลูกค้า

การทำธุรกิจออนไลน์

ช่วยสร้างเนื้อหาและปรับปรุงเว็บไซต์อัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจออนไลน์ เช่น สร้างรายการสินค้า การพัฒนาเครื่องมือค้นหา และการแนะนำสินค้า เป็นต้น

การวิเคราะห์ข้อมูล

Generative AI ใช้วิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติ และเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในองค์กร อาชีพที่เกี่ยวกับวิเคราะห์ข้อมูลอาจได้รับผลกระทบ เช่น วิเคราะห์ธุรกิจ วิเคราะห์ตลาด และวิเคราะห์ข้อมูลการแพทย์

การใช้ข้อมูลในอุตสาหกรรม

เรื่องของการใช้งานด้านวิเคราะห์ สร้างข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่าย และเชื่อถือได้ในอุตสาหกรรม หมายความว่า อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลอาจได้รับผลกระทบ เช่น ใช้ข้อมูลทางการแพทย์ ใช้ข้อมูลทางการเงิน และการใช้ข้อมูลเพื่อการพัฒนาสินค้าและบริการ

การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ

ใช้เพื่อสร้างภาพวาด ภาพถ่าย วิดีโอ และผลงานศิลปะอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ ซึ่งอาชีพสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอาจได้รับผลกระทบ เช่น ออกแบบภาพประกอบ การออกแบบภาพต่อเติม และการสร้างภาพศิลปะ

อย่างไรก็ตาม Generative AI ยังมีข้อจำกัด และอุปสรรคบางอย่าง เช่น ต้องมีข้อมูลขนาดใหญ่ที่สะสมไว้และอาจมีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ดังนั้นอาจจำเป็นต้องพัฒนาต่อไปอีกระยะหนึ่ง จึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในอนาคต

นอกจากนี้ การใช้งาน Generative AI ควรต้องะมัดระวัง วางแผนการใช้งานให้เหมาะสม ปลอดภัยต่อสังคม เช่นสร้าง Deepfake หรือวิดีโอเทียมที่สร้างภาพหรือเสียงที่ดูเหมือนจริงจนเกินกว่าจะเข้าใจได้ว่าเป็นวิดีโอปลอม ความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ของผลงานต่างๆ การผลิตสินค้าปลอม หรือเข้าไปเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ ผู้พัฒนา Generative AI จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ ความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ที่ได้รับมา ยังเป็นปัญหาที่ต้องถูกตรวจสอบเข้มงวด เนื่องจากเป็นไปได้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้อาจมีข้อผิดพลาดหรือไม่ถูกต้อง

ดังนั้นการใช้งาน Generative AI ต้องระมัดระวังและต้องตรวจสอบผลลัพธ์อย่างเคร่งครัด สุดท้ายต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม ให้ความสำคัญกับความสามารถเข้าถึงและใช้งาน Generative AI ให้เท่าเทียมกัน เพื่อไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม

ดังนั้น ต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและใช้ Generative AI ให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อสังคมอย่างยั่งยืน

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ