โตโน่ ภาคิน เปิดใจหลังว่ายน้ำถึงลาว เคลียร์ดราม่าไม่เอาเงินตัวเองบริจาค

ประชาชนมาคอยให้กำลังใจเต็มริมฝั่งโขงเลยทีเดียว สำหรับพระเอกดัง "โตโน่ ภาคิน" ที่วันนี้ (22 ต.ค.65) ได้ปฎิบัติภารกิจว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงในโครงการ "One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" รวมระยะทาง 15 กิโลเมตร โดยเจ้าตัวได้เริ่มว่ายน้ำ เมื่อเวลา 10.09 น. ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงเชียร์ของประชาชนที่ตะโกนบอก "โตโน่ สู้ๆ" กันอย่างคึกคัก

จนกระทั่งต่อมาเวลา 12.09 น. โตโน่ก็ฝ่ากระแสน้ำสำเร็จ สามารถว่ายขึ้นฝั่งที่ประเทศลาว บริเวณวัดพระศรีโคตะบองได้สำเร็จ โดยมีประชาชนจาก สปป.ลาว มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งมอบดอกไม้และขอหอมแก้มอีกด้วย ซึ่งโตโน่ได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดสีขาว ถือบายศรีมาสักการะพระธาตุศรีโคดตะบอง เสริมสิริมงคล โดยมีแฟนสาว "ณิชา ณัฏฐณิชา" และทีมงานข้ามฝั่งมาให้กำลังใจด้วย

โดย โตโน่ ได้เปิดใจหลังว่ายน้ำข้ามมาฝั่งลาวสำเร็จ ใจความว่า "เป็นภาพที่จะเก็บไว้ในชีวิต ตอนแรกแว่นมัว ไอร้อนออกจากตา ก็ไม่ค่อยเห็น แต่พอได้ยินเสียงเขาก็ว่าหูฝาดหรือเปล่า พอถอดแว่น ก็เต็มฝั่ง" พร้อมหยอดหวานกลางงานที่ลาวจัดเลี้ยงต้อนรับตนไว้ว่า "โน่ยังฮักลาวเสมอ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

โตโน่ ว่ายน้ำข้ามโขงถึงฝั่ง สปป.ลาว แล้ว แฟนๆชาวลาวรอต้อนรับเพียบ

ณิชา ณัฏฐณิชา หวานใจ โตโน่ ภาคิน ร่ายรำถวายพ่อปู่พญานาค ริมฝั่งโขง

เปิดกำหนดการ โตโน่ ภาคิน ว่ายน้ำข้ามโขง ยอดบริจาคทะลุ 26 ล้านบาท

สำหรับกำหนดการว่ายน้ำจากฝั่ง สปป.ลาว กลับฝั่งไทยนั้น จะเริ่มต้นเวลาประมาณ 15.30 น. เป็นต้นไป ส่วนยอดเงินบริจาคก็พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีจำนวนเงินบริจาคกว่า 50 ล้านบาทแล้ว ในขณะที่ยอดบริจาคพุ่งขึ้นไม่หยุด แต่กระแสดราม่าต่างๆก็ตีคู่มาต่อเนื่อง 

ทั้งนี้หากย้อนไปก่อนหน้านี้ เพจ "เก็บรักษ์" ได้ลงคลิปโตโน่ตอบคำถามที่หลายคนสงสัยในเรื่องการจัดโครงการว่ายข้ามโขง หลังมีหลายเสียงเกิดคำถามว่าทำไมถึงไม่เอาเงินของตัวเองบริจาค โดยโตโน่ได้ตอบอย่างตรงไปตรงมา ชี้แจงให้ทราบว่า

"โครงการนี้ที่ผมว่าย ผมออก 1 ล้าน แล้วมีสปอนเซอร์มาช่วยผมอีก 1 ล้าน เป็น 2  ล้าน ผมแค่อยากจะเอา 2 ล้าน ไปลุ้น 10 ล้าน ถ้าผมเอาเงิน 1 ล้านของผมไปบริจาคเลย ผมได้แค่เครื่องเดียว ว่ายน้ำอย่างน้อยเป็นข่าว ได้โดนด่า ก็ยังมีโอกาสได้มาบอกไงว่าทำไมถึงว่าย ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะสร้างแรงกระเพื้อมได้มากขนาดไหน ในอนาคตมันจะเปลี่ยนให้มันดีขึ้นมาได้ไหม แต่อย่างน้อยการว่ายครั้งนี้ของผม มันเพียงแค่ช่วงต่อลมหายใจให้กับเด็กๆ เพิ่มกำลังใจให้คุณหมอ คุณพยาบาล ต่อหน้าต่อตาที่ผมเห็นทั้งฝั่งท่าแขกและนครพนม มันคุ้มแล้วในการลงมือทำ"