SHORT CUT
หาก "ภูมิใจไทย" ได้เป็นรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยมีภารกิจหลักคือ "ยุบสภา" ภายใน 120 วัน และจัดการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันเลือกตั้ง
หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงความพร้อมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 กันยายน 2568 หลังจากได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทั้งหมด 146 คน ที่จับมือตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
การรวมเสียงครั้งนี้เกิดขึ้นจากมติของพรรคประชาชน ภายใต้การนำของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งได้ตกลงสนับสนุนนายอนุทินภายใต้เงื่อนไข 5 ข้อที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
เงื่อนไขพรรคประชาชนข้อหลักคือ รัฐบาลรักษาการณ์เสียงข้างน้อย ใต้การนำของพรรคภูมิใจไทย คือ ต้องยุบสภาใน 4 เดือน ต้องทำการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันเลือกตั้ง และพรรคประชาชนจะเป็นฝ่ายค้านต่อไป
นายอนุทินได้ลงนามรับข้อตกลง 5 ข้อจากพรรคประชาชน โดยมี สส. ทั้ง 146 คนร่วมเป็นสักขีพยาน และยืนยันว่าจะปฏิบัติตามทุกข้ออย่างเคร่งครัด
การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่น่าจับตา หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้นำรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การสนับสนุนจากพรรคประชาชนและพรรคร่วม แต่ความพิเศษของรัฐบาลชุดนี้คือ "กรอบเวลา" ที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยมีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องทำให้สำเร็จภายใน 120 วัน
รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ภารกิจ 120 วัน แต่ยังมี "ไทม์ไลน์" สู่การเลือกตั้งใหม่ที่ชัดเจน
หากเป็นไปตามเงื่อนไขพรรคประชาชน จะมีการยุบสภาในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งเมื่อเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภา ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ยุบสภาแล้ว ก็จะมีผลทันที ทำให้ สส. ทั้งหมดสิ้นสุดตำแหน่ง และภายใน 5 วันนับแต่พระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ กกต. ก็จะจะกำหนดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง