MetaFi คืออะไร อนาคตของการลงทุนใน Digital Asset & NFTs จะเหมือนตอนนี้ไหม?
MetaFi คืออะไร อาจเป็นคำที่หลายคนสงสัยถัดจากคำว่า Metaverse ซึ่งในความเป็นจริง MetaFi ย่อมาจาก Metaverse + Financial สื่อถึงโลกการเงินใน Metaverse ที่กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมชาวโลกไปอยู่ในโลกดิจิทัลและใช้เงินดิจิทัล สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปและก้าวหน้าไปมาก
แค่พลิกอ่านไฟล์ Citi GPS: Global Perspectives & Solutions (March 2022) ที่รวบรวมสาระสำคัญเกี่ยวกับ Metaverse ก็ได้ข้อมูลแบบอัดแน่นตั้งแต่ความหมาย ความสำคัญ การใช้ประโยชน์ ตัวอย่างการใช้งาน เงินดิจิทัล การลงทุน สินทรัพย์ดิจิทัล ไปจนถึงคาดการณ์ภาพอนาคตที่สะท้อนผ่านคำว่า MetaFi
MetaFi - Finance in the Metaverse เมื่อ Metaverse พัฒนายิ่งขึ้น ย่อมต้องมี MetaFi หรือบริการทางการเงินที่หลากหลาย ซึ่งหมายรวมทั้ง
- 1) ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi - Decentralized Finance)
- 2) ระบบการเงินแบบรวมศูนย์ (CeFi - Centralized Finance)
- 3) ระบบการเงินแบบดั้งเดิม (TradeFi - Traditional Finance)
เพื่อตอบสนองความต้องการในระบบนิเวศใหม่ ตั้งแต่การสร้างสิ่งต่างๆ ไปจนถึงการค้าขาย ใน MetaFi ก็จะมีทั้ง DeFi ที่มาพร้อมการให้กู้ยืมแบบมีหลักประกัน ได้ผลตอบแทน ในขณะที่ TradeFi และ CeFi จะอำนวยความสะดวกในด้านการตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง ร่วมกับการประเมินเครดิต
ถ้าคุณเคยซื้อขายหรือเทรดเงินดิจิทัล คงพอรู้จัก Coin หรือ Token อยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยเทรด แนะนำให้รู้จักเงิน 5 ประเภทก่อน
สกุลเงิน 5 ประเภทที่ต้องรู้ ก่อนเข้าไป ซื้อ-ขาย-เทรด-กู้-ลงทุนใน Metaverse
1. สกุลเงินดิจิทัลที่ใช้ในเกม เช่น Robux จากเกม Roblox, Minecraft Token จาก Minecraft, Linden dollars จาก Second Life
2. สกุลเงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin), อีเธอเรียม (Ethereum), โพลีกอน (Polygon)
...............................................................................
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse
- Metaverse จะสมบูรณ์ ต้องมีอะไรบ้าง? สรุปแบบเข้าใจง่าย ไม่เน้นเทคโนโลยี
- Meta World Samui เตรียมเที่ยวสมุยผ่านโลกเสมือน และฮับแห่ง Game Dev
- Ni No Kuni เปิดตัวเหรียญโทเคน NFT ให้ผู้เล่นสร้างรายได้จากการเล่นเกม
...............................................................................
3. สกุลเงินดิจิทัลที่มีราคาคงที่เนื่องจากมีกลไกการตรึงราคาด้วยสกุลเงินหลักของโลก หรือมีทองคำ มีสินทรัพย์ค้ำประกัน มีสกุลเงินดิจิทัลรองรับ เช่น
- USD Coin (USDC) ตรึงราคาด้วยเงินดอลลาร์ (1 คอยน์ = 1 ดอลลาร์)
- Binance USD (BUSD) ตรึงราคาด้วยเงินดอลลาร์ (1 คอยน์ = 1 ดอลลาร์)
- Tether USD (USDT) ตรึงราคาด้วยเงินดอลลาร์ โดย 1 USDT มีมูลค่าเกือบ 1 ดอลลาร์
- DAI Coin (DAI) มีเงินดิจิทัลที่อยู่ในโปรเจกต์ MakerDAO รองรับ โดยทำงานอยู่บน Ethereum ส่วนมูลค่า 1 DAI อยู่ที่ประมาณ 1 ดอลลาร์
- Terra (LUNA) ตรึงราคาไว้กับเงินดิจิทัล Terra Classic USD (UST) (ซึ่งไม่ได้มีเงินดอลลาร์รองรับ) โดย 1 โทเคน มีมูลค่าประมาณ 1 ดอลลาร์ แต่เหรียญ LUNA ผันผวนจนต้องล่มสลายไป LUNA 2.0 ที่เกิดตามมาก็มีมูลค่าผันผวนและร่วงลงไม่น้อย
4) สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางแต่ละประเทศ (CBDCs) เช่น หยวนดิจิทัล (e-CNY) ออกโดยจีน, ไนร่าดิจิทัล (e-Naira) ออกโดยไนจีเรีย, แซนด์ดิจิทัล (Sand Dollar) ออกโดยบาฮามัส
5) สกุลเงินที่จับต้องได้และใช้กันในปัจจุบัน เช่น เงินดอลลาร์ (USD), เงินปอนด์ (GBP), เงินยูโร (EUR), เงินหยวน (CNY)
ข้อ 1-4 เป็นสกุลเงินดิจิทัล ส่วนข้อ 5 เป็นเงินกระดาษที่เราใช้กันในปัจจุบัน หรือที่เรียกกันว่า เงินเฟียต (Fiat Money)
คราวนี้มาดูโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องมีเพื่อให้ Metaverse เป็น Metaverse
- ระบบประมวลผล
[Compute (Central Processing Unit (CPU), Graphics Processing Unit (GPU)] - แหล่งเก็บข้อมูล
[Storage (Data Centers, Cloud, Edge Computing)] - โครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย
[Network Infrastructure (Low Latency, High Bandwidth)] - อุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคหรือผู้ใช้งาน
[Consumer Hardware (Headsets, Real World Modelling)] - แพลตฟอร์มเกมที่พัฒนาเพื่อเล่นหรือใช้งาน
[Game Development Platforms]
Metaverse ยังมาไม่ถึง แต่มันจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
แม้จะมีหลายเสียงพูดว่า อีกนานกว่า Metaverse จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ทิศทางที่หลายบริษัทกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในโลกเสมือนก็บ่งชี้ว่า ธุรกิจน้อยใหญ่ต่างก็พุ่งเป้าไปสู่ Metaverse
- Metaverse เป็นโลกอินเทอร์เน็ตเวอร์ชันถัดไป (Web 3.0) ที่ต้องอาศัย 5G หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ เพื่อให้การเชื่อมโลกจริงกับโลกเสมือนทำได้แบบเรียลไทม์และไม่สะดุด
- VR ไม่ใช่ Metaverse เป็นเพียงหนึ่งในเทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ (เช่น สมาร์ทโฟน) เพื่อเข้าไปใน Metaverse
- คาดว่าจะมีคนเข้าถึง Metaverse ราว 1-5 พันล้านคน (จากการใช้ VR headset) ภายในปี 2030
- MetaFi มาจากคำว่า Metaverse และ Finance หมายถึง การบริการทางการเงินใน Metaverse
- NFTs จะมีบทบาทในการแสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลใน Metaverse
- 9 อุตสาหกรรมเด่นที่จะใช้ Metaverse : การศึกษา, การดูแลสุขภาพ, ระบบการผลิตอัจฉริยะ, นักพัฒนา/เศรษฐกิจนักสร้างสรรค์, โฆษณาเสมือนจริง, พื้นที่เสมือน/คอมมูนิตีเสมือน, การค้าขายบนโซเชียล, อีเวนต์/คอนเสิร์ต/การท่องเที่ยวดิจิทัล และเมืองเสมือนจริง/บริการสาธารณะ
- Metaverse Economy อาจมีมูลค่าราว 8-13 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030
จากที่มีข้อมูลคาดการณ์เกี่ยวกับ Metaverse หลากหลายรายงาน ผู้เขียนสรุปแนวโน้มที่อาจตามมา ดังนี้
- แม้ยังไม่ใช้สกุลเงินดิจิทัลในตอนนี้ แต่ MetaFi จะเป็นสิ่งที่เราหนีไม่พ้น เหมือนกับ อินเทอร์เน็ต, สมาร์ทโฟน, เฟซบุ๊ก จากที่ไม่เคยมี กลับกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกใช้งานโดยปริยาย
- มูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะเติบโตแซงหน้ามูลค่าตลาดของหลายอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมหรือธุรกิจใดที่ไม่ปรับตัวก็จะไปไม่รอด
- สกุลเงินดิจิทัลและ NFTs จะเกิดขึ้นอีกมาก และจะมีความผันผวนสูง ความรู้ความเข้าใจและการใช้ความคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking) ไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ และไม่โลภ จะช่วยให้เราถือครองและปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลเอาไว้ได้
- จินตนาการไร้พรหมแดนใน Metaverse จะนำเราเข้าไปใช้ชีวิต - ใช้จ่ายในโลกเสมือน ขณะที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะบ่งบอกถึงความสนใจและรสนิยมของผู้ครอบครอง
- Digital Asset และ NFTs จะทำให้เกิด Data อีกนับไม่ถ้วน หากมองในมุม Data การสร้างข้อมูลใหม่ การเข้าถึงข้อมูล การส่งต่อหรือไหลเวียนข้อมูลใน Metaverse จะก่อเกิดเป็น Data Economy
- ตัวเราเองหรือผู้ที่อ่านบทความนี้จะสามารถเข้าไปหารายได้ ประกอบอาชีพใหม่ๆ มีคอมมูนิตีใหม่ ได้ครอบครองสินทรัพย์ที่แปลกและแตกต่าง แบบที่ไม่สามารถเข้าถึงได้และไม่เคยมีมาก่อน
......................................................................
ที่มา