บขส.เปิด 24 เส้นทางเดินรถภาคใต้ เริ่ม 9 มิ.ย.นี้ หลัง ศบค. ผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ให้รถโดยสารสาธารณะสามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้
บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เตรียมเปิดเส้นทางเดินรถภาคใต้ เริ่ม 9 มิถุนายน 2563 นี้ หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ให้รถโดยสารสาธารณะสามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้
สำหรับเส้นทางเดินรถภาคใต้ที่เปิดให้บริการ ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ (หมอชิต2) - เกาะสมุย
- กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) - ภูเก็ต
- กรุงเทพฯ (หมอชิต2) - ด่านนอก
- กรุงเทพฯ (หมอชิต2) - สตูล
- กรุงเทพฯ (หมอชิต2) - กระบี่
- กรุงเทพฯ (หมอชิต2) - ชุมพร
- กรุงเทพฯ (หมอชิต2) - หลังสวน
- กรุงเทพฯ (หมอชิต2) - ด่านเจดีย์สามองค์
- กรุงเทพฯ - ทับละมุ - พังงา (สายเก่า)
- กรุงเทพฯ - ตะกั่วป่า - โคกกลอย (สายเก่า)
- กรุงเทพฯ - ภูเก็ต
- กรุงเทพฯ - กระบี่
- กรุงเทพฯ - นครศรีฯ - สงขลา
- กรุงเทพฯ - นครศรีฯ - หัวไทร
- กรุงเทพฯ - ตรัง
- กรุงเทพฯ - ตรัง - สตูล
- กรุงเทพฯ - สุไหงโกลก
- กรุงเทพฯ - ยะลา - เบตง
- กรุงเทพฯ - สตูล
- กรุงเทพฯ - เกาะสมุย
- กรุงเทพฯ - ดอนสัก (ท่าเรือ)
- กรุงเทพฯ - หาดใหญ่
- กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ - สงขลา
- กรุงเทพฯ - คลองท่อม - กระบี่
บขส. คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้โดยสาร พนักงาน โดยมีการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) อย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคมกำหนด คือ
1. จัดทำมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด โดยเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน อย่างน้อย 1 เมตร หากผู้โดยสารครบตามจำนวนที่กำหนด จะไม่รับผู้โดยสารรายใหม่เพิ่มโดยเด็ดขาด
2. งดให้บริการอาหารเครื่องดื่มบนรถโดยสาร และไม่อนุญาตให้นำอาหารมารับประทานบนรถโดยสาร เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส โดยจะให้รับประทานอาหารเฉพาะที่จุดพักรถเท่านั้น ซึ่ง บขส. ได้เปลี่ยนแปลงจุดพักรับประทานอาหารตามเที่ยวเวลารถออก เพื่อให้สอดคล้องกับเวลาเปิด-ปิด ร้านอาหารตามเวลาเคอร์ฟิวด้วย
3. พนักงานประจำรถ พนักงานประจำสถานี และผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าใช้บริการภายในสถานีขนส่ง และต้องผ่านการคัดกรองผู้โดยสาร
4. หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด