โรบอตคัมแบ็ก ! EPSON เปิดโซลูชั่นเซ็นเตอร์ สำหรับธุรกิจกลุ่มบีทูบี
เอปสัน ลงทุน 30 ล้านบาท เปิดโซลูชั่นเซ็นเตอร์ ส่งเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ โรบอต และโปรเจคเตอร์ สำหรับงานพิมพ์ทุกประเภท บนพื้นที่กว่า 600 ตรม. ช่วยธุรกิจหน้าใหม่และเก่าได้มีเครื่องมือใช้งานแบบไม่ต้องจ้างคน
SHORT CUT
- เอปสันนำเทคโนโลยีโรบอตกลับมาขายสำหรับธุรกิจบีทูบีอีกครั้ง
- สร้างโซลูชั่นเซ็นเตอร์ใช้งบ 30 ล้านบาท บนพื้นที่ 600 ตรม.ที่ตึก PUNN
- หวังแสดงเทคโนโลยีด้านงานพิมพ์สำหรับประกอบอาชีพเชิงธุรกิจได้
เอปสัน ลงทุน 30 ล้านบาท เปิดโซลูชั่นเซ็นเตอร์ ส่งเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ โรบอต และโปรเจคเตอร์ สำหรับงานพิมพ์ทุกประเภท บนพื้นที่กว่า 600 ตรม. ช่วยธุรกิจหน้าใหม่และเก่าได้มีเครื่องมือใช้งานแบบไม่ต้องจ้างคน
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โซลูชั่น เซ็นเตอร์แห่งใหม่ที่ประเทศไทยนี้ ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ใช้พื้นที่กว่า 600 ตร.ม. ชูคอนเซ็ปต์ “Sustainability of Asia and Season Changes” โดยจะเปลี่ยนรูปแบบการตกแต่งตามฤดูกาล การตกแต่งภายในทั้งหมดเน้นใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสและสีที่เป็นธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังตกแต่งด้วยภาพพิมพ์จากเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม และภาพฉายด้วยโปรเจคเตอร์ของเอปสัน
โรบอตคัมแบ็ก
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการนำโซลูชั่นที่เกี่ยวกับโรบอต กลับมาทำตลาดอีกครั้งว่า ในหลายประเทศเทคโนโลยีโรบอตของเอปสันมีการเติบโตอย่างมาก อย่างเวียดนามก็มีจีนเข้าไปลงทุนและย้ายถิ่นฐานการผลิตเข้าไปหลายบริษัท ทำให้โรบอตของเราเติบโตเป็นเลขสามหลักเลย อาจเพราะเป็นการลงทุนเริ่มต้นใหม่ตัวเลขก็เลยสูง
โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องผิดพลาดน้อยที่สุด ก็เลยเอาโรบอตมาช่วยในเรื่องของฐานการผลิตมากกว่าเดิม
ส่วนไทยนั้น เราก็คาดหวังเยอะจากที่เคยนำโรบอตเข้ามาแล้วผลตอบรับชะลอตัวลงจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่ที่นำกลับมาอีกครั้งเพราะเห็นหลายอุตสาหกรรมสนใจและเชื่อว่าจะมีโอกาส เพราะนำไปใช้งานได้หลายประเภท ทั้งชงกาแฟ ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความละเอียดสูง เป็นต้น
ลงทุนโชว์เคสเพื่อลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย
นายซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการภูมิภาค เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การเปิดโซลูชั่น เซ็นเตอร์ในประเทศไทย ถือเป็นอีกย่างก้าวสำคัญ ก่อนหน้านี้มีการเปิดโซลูชั่น เซ็นเตอร์ ที่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย
การเปิดเพิ่มที่ไทย ทำให้มีทัชพอยต์สำหรับลูกค้า B2B ได้ครอบคลุมภูมิภาคนี้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดที่มีบทบาทสำคัญต่อเอปสันมาโดยตลอด ถือเป็นตลาดหลักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจในกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และปากีสถานอีกด้วย
การเปิดโซลูชั่น เซ็นเตอร์แห่งใหม่ล่าสุด วันนี้จึงสะท้อนถึงความทุ่มเทของเอปสันที่จะสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากยิ่งขึ้นในภูมิภาคนี้ และตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินกิจการในประเทศไทย
ธุรกิจเครื่องพิมพ์ที่เติบโตต่อเนื่อง
จุนคิชิ โยชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เอปสันไม่ได้กำหนดความก้าวหน้าขององค์กรที่ความสำเร็จด้านผลกำไรเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญอย่างมากกับความยั่งยืน
อย่างเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Free ลิขสิทธิ์เฉพาะของเอปสัน ใช้พลังงานน้อยและช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จนกลายเป็นแบรนด์เครื่องพิมพ์อิงค์แทงค์อันดับ 1 ของโลกด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงถึง 90 ล้านเครื่องเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เอปสันยังครองอันดับ 1 ในตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลกมายาวนานถึง 22 ปีติดต่อกัน ที่สำคัญ บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าองค์กร หรือ B2B มาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดเครื่องพิมพ์หน้ากว้างของตลาดอาเซียนในปีที่ผ่านมาได้สำเร็จ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 21%
ดังนั้น โซลูชั่น เซ็นเตอร์นี้จึงเป็นทัชพอยต์สำคัญที่จะทำให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเอปสันได้พบและรับประสบการณ์อันน่าประทับใจโดยตรงด้วยตัวเองกับผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นด้าน B2B ใหม่ๆ ของบริษัทฯ
เอปสันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ช่วยให้องค์กรต่างๆ ให้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ยั่งยืนของเอปสัน เพื่อยกระดับชีวิตและสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้แก่คนรุ่นต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
