แพลตฟอร์มป่วน สึนามิครั้งใหญ่กับผู้ใช้ สื่อ และอินฟลูเอนเซอร์
การสู้รบครั้งใหม่ ของเหล่าแพลตฟอร์มบนสนามธุรกิจออนไลน์ หนีไม่พ้นต้องส่งผลกระทบมายังผู้พึ่งพาอาศัยแพลตฟอร์มในการทำมาหากิน ผลักดันให้เกิดการแสวงหาอาวุธใหม่มาใช้ทำศึก อะไรคืออาวุธใหม่ ที่เหล่าผู้ใช้แพลตฟอร์มต้องมี เพื่อการกำชัยชนะ หรือเพียงเพื่อแค่อยู่รอดต่อไป
ไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มระดับโลกมากมาย ที่เราในฐานะผู้ใช้งานก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารกันหลายแบบ รวมถึงผู้ผลิตสื่อ และอินฟลูเอนเซอร์เช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เริ่มต้นจากความไม่เสถียรของการใช้งาน Facebook หรือ Meta ที่ก่อนหน้านี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ออกมาประกาศทุ่มเทกับการสร้าง Metaverse จนทำให้คนทั้งโลกตื่นเต้นกับกระแสนี้ ทั้งผู้ใช้งานหรือผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ก็เกาะกระแสกันแน่น
แต่สุดท้าย Metaverse กลับเป็นแค่ “กระแส” ที่พาให้ Meta ถึงกับขาดทุนหนัก ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน Facebook ทั่วไปก็งงกับการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
บทความที่เกี่ยวข้อง
Horizon Worlds โลก Metaverse ของ Meta ดิ้นหาผู้ใช้งาน
ทำไมเกมเมอร์ไม่อิน Metaverse ด้าน Phil Spencer บอกเขาอยู่กันมาตั้งนานแล้ว
ผลวิจัยชี้ การทำงานบน Metaverse ไม่มีประสิทธิภาพ เพิ่มความกดดันและเครียด
“เทคโนโลยีมาเร็วเกินไป”
นี่คือปัญหาสำคัญของบริษัทเทคทั่วโลกที่ต่างเผชิญกันมาแล้ว ย้อนไปเมื่อปี 2013 Google Glass เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยความสามารถในการแสดงผลข้อมูลรอบๆตัว ทั้งแผนที่ ภาพ โซเชียลมีเดีย ข้อมูลต่างๆ บนแว่นตา แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นแค่ “กระแส” ที่ฮือฮาอยู่พักนึง และสุดท้ายยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ผู้ใช้ยังไม่พร้อมใช้งาน โครงการนี้ก็เงียบหายไป
“Tiktok ผู้พลิกโฉมพฤติกรรมมนุษย์”
การมาของ Tiktok ได้สร้างรูปแบบการเสพข้อมูลบนโซเชียลมีเดียใหม่ จากการติดตามเพื่อนหรือเพจหรือการพูดคุยจากแพลตฟอร์มที่เราคุ้นเคยมาตลอด 5 ปี มาเป็นหารเสพ Shot VDO ที่มีคนมากมายผลิตคอนเทนต์ให้เราดู และสามารถแสดงออกในการใช้เสียงและภาพที่น่าดึงดูด ด้วยระบบ AI ที่ฉลาดมากพอจนทำให้เป็นแพลตฟอร์มจีนที่ทั่วโลกใช้ แทบจะใช้เวลามากกว่า Facebook หรือ Twitter เดิมๆ ไปอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงแค่ 3 ปี
อ่าน: META เตรียมสร้างรายได้ผ่าน IG หวังแย่งชิงผู้ใช้งานและโฆษณากับ TikTok
“YouTube Shorts เข้าสนามรบ คลิปสั้น”
สถานการณ์การเสพคอนเท้นที่สั้นลงของผู้ที่เสพติดการใช้ Tiktok ที่ผ่านมา ทำให้ทุกแพลตฟอร์มพบว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง VDO content กลายเป็น Most consuming content จนทำให้ YouTube (ในเครือ Google) ต้องหันมาทุ่มสรรพกำลัง เปิดตัว YouTube shorts เพื่อสู้ในสนามนี้ ซึ่งข้อดีคือ YouTube เหมือนห้องสมุดโลกไปแล้ว หากคุณดู Shorts มันสามารถลากคุณไปดูต่อใน YouTube ได้ทันที ไม่เหมือนแพลตฟอร์มอื่น และที่สำคัญ YouTube มีรายได้รออยู่แล้ว
อ่าน: YouTube เตรียมเปิดฟีเจอร์ใหม่ ดันอีคอมเมิร์ช ขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม
“Meta ปล่อย Reels สู้ แต่กลับโดนน็อก”
Reels คลิปสั้นเสพง่ายๆ ที่ Meta ปล่อยมาสู้ในศึกที่เพลี้ยงพล้ำให้กับ Tiktok ไปแล้ว แต่โดยความแปรปรวนภายในองค์กรตลอดปีที่ผ่านมา ก็ทำเอาระบบ AI ดึงคอนเทนต์ไม่น่าสนใจมาโชว์ จนผู้ใช้ต่างบ่นอุบว่าเจอแต่คลิปสาวเต้นเหมือนๆ กันหมด
อ่าน: Meta ประกาศอวสาน IGTV ในขณะที่ Tiktok เพิ่มคลิป 10 นาที
“Twitter + Elon Musk = ???”
การเปลี่ยนมือครั้งสำคัญของเจ้าของทวิตเตอร์ และเป็นมือใหม่ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงรุนแรงมาแล้วในหลายอุตสาหกรรมที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วม จากข่างการปลดผู้บริหาร พนักงาน เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เดาไม่ถูกเลยว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ไม่แน่ Twitter อาจกลายเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ทั่วโลกในโฉมใหม่ หรือไม่ก็ดิ่งเหวอย่างไม่มีวันกลับ….
อ่าน : Twitter Blue อาจไปไม่รอด ตอนนี้บัญชีปลอมระบาดทั่ว อาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
สรุป :
ปี 2023 คาดการณ์ว่า ศึก “คลิปสั้น” จะเป็นศึกหลักของทุกแพลตฟอร์มที่จะพยายามให้แย่งผู้ใช้กันอย่างรุนแรง เพราะจากข้อมูลล่าสุด พฤติกรรมผู้บริโภค Gen Z ทั่วโลก จากเดิมที่เลือกดูคอนเท้นที่ 3 วินาทีแรก แต่ตอนนี้เวลาตัดสินใจนั้นสั้นลงเหลือแค่ 1.5 วินาทีเท่านั้น
ศึกนี้กระทบกับใครบ้าง? ต้องบอกว่าทุกคน เช่น ผู้ใช้จะสมาธิสั้นลง สื่อจะต้องหาวิธีนำเสนอบนมาตรฐานวิชาชีพ ออนฟลูเอนเซอร์ก็จะแข่งขันกันแย่งผู้ชมด้วยวิธีที่แปลกออกไป
สึนามิครั้งนี้ ก่อตัวเป็นลูกใหญ่ที่จะพัดคนที่ไม่พร้อมให้จมน้ำ และคนที่พร้อมก็จะลอยคอได้ต่อไป
บทความโดย ระวี ตะวันธรงค์ Executive Vice President, Business Intelligence, Nation Group (Thailand) และนายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
