SHORT CUT
รายงานล่าสุดจากองค์การสหประชาชาติ (UN) สั่นสะเทือนวงการความมั่นคงไซเบอร์ทั่วโลก: กัมพูชาไม่ใช่แค่มีปัญหาไซเบอร์ แต่กลายเป็น “ศูนย์กลาง” ของมัน
รายงานล่าสุดจาก องค์การสหประชาชาติ (UN) สั่นสะเทือนวงการความมั่นคงไซเบอร์ทั่วโลก: กัมพูชาไม่ใช่แค่มีปัญหาไซเบอร์ แต่กลายเป็น “ศูนย์กลาง” ของมัน
ลืมภาพเมียนมาในฐานะแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปได้เลย รายงานจาก UNODC (สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ) ระบุชัด — กัมพูชาแซงหน้าขึ้นแท่นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก
ไม่ใช่แค่หลอกลวงธรรมดา แต่คือ “อุตสาหกรรมหลอกลวง”
รายงานเผยว่า แก๊งเหล่านี้ใช้กัมพูชาเป็นฐานในการล่อเหยื่อจากทั่วโลก ทั้ง
เมืองอย่าง สีหนุวิลล์ กลายเป็นฮับใหญ่โตของเครือข่ายนี้ — ลงทุนจากต่างชาติหลั่งไหล แต่เบื้องหลังกลับเป็นขบวนการข้ามชาติ
ปอยเปต ก็ไม่แพ้กัน เป็นฐานเจาะตลาดฝั่งไทยโดยเฉพาะ
UNODC ยังชี้ความเชื่อมโยงระหว่าง ศูนย์หลอกลวง กับผู้มีอำนาจทางการเมือง หนักไปกว่านั้น:
กลุ่ม LYP Group ที่ได้สัมปทานเขตเศรษฐกิจเกาะกง ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร ฐานพัวพันค้ามนุษย์-หลอกลวง
หลานชายฮุน เซน ถูกกล่าวหาว่าพัวพันขบวนการหลอกลวง-ยักยอกทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่ากว่า 49,000 ล้านดอลลาร์
เชื่อมโยงกับ Huione Group กลุ่มการเงินที่ถูกกล่าวหาเป็นแหล่งฟอกเงินจากอาชญากรรมไซเบอร์
Huione: ฟันเฟืองการเงินของโลกมืด
ให้บริการแลกเงินดิจิทัล-ระบบจ่ายเงิน
ถูกธนาคารกลางกัมพูชายกเลิกใบอนุญาต (มี.ค. 2025)
ถูก Fincen สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำในฐานะศูนย์กลางฟอกเงินข้ามชาติ
บริษัทบล็อกเชน Elliptic ประเมินว่าเครือข่าย Huione Guarantee มีธุรกรรมกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์ และเรียกว่า “ตลาดอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
เสียงเรียกร้องเริ่มดังขึ้นในฝั่งไทยว่า ไม่ควรปล่อยให้กัมพูชายื่นศาลโลกเรื่องเขตแดนอยู่ฝ่ายเดียว แต่ควร ดันประเด็นอาชญากรรมไซเบอร์ สู่เวที UN ด้วยเช่นกัน — เพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามที่กำลังลามมาถึงบ้านเรา
ที่มา : straitstimes
ข่าวที่เกี่ยวข้อง