svasdssvasds

อดีตนักพนัน เจ้าพ่อ นักการเมือง ! เส้นทางชีวิตแบบ “ใจแลกใจ” ในสไตล์ชัช เตาปูน

SpringNews เจาะลึกชีวิตในทุกมิติ ตีแผ่ให้เห็นตัวตนของ ชัช เตาปูน กันแบบชัด ชัด ซึ่งเขาได้เล่าความเป็นมาของชีวิต ตั้งแต่ครั้นยังเป็นเด็กชาย นักเรียนอาชีวะ นักพนัน นักร้อง เจ้าพ่อ เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ กระทั่งกลายมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในปัจจุบัน

เรื่องราวของ ชัช เตาปูน หรือ ชัชวาลล์ คงอุดม ถือว่าเป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ด้วยเส้นทางที่โลดโผนในสไตล์ “ใจถึง พึ่งได้” โดยเขาได้เปิดบ้านให้ SpringNews เจาะลึกชีวิตในทุกมิติ ตีแผ่ให้เห็นตัวตนของเขากันแบบชัด ชัด ซึ่งเขาได้เล่าความเป็นมาของชีวิต ตั้งแต่ครั้นยังเป็นเด็กชาย นักเรียนอาชีวะ นักพนัน นักร้อง เจ้าพ่อ เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ กระทั่งกลายมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในปัจจุบัน ดังนี้

เกลียดการปล่อยเงินกู้

ชัช เล่าถึงประสบการณ์อันขื่นขมของครอบครัว ที่พ่อต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้ ก่อนจะกลายเหยื่อ ส่งผลให้ความเป็นอยู่ในวัยเด็กของเขาต้องเป็นไปอย่างขัดสน และเป็นปมในใจ ที่ทำให้เกลียดการปล่อยเงินกู้นับจากนั้นมา  

“พ่อของผมเงินเดือนพันกว่าบาท สมัยนั้นก๋วยเตี๋ยวชามละ 50 สตางค์ ก็ยังอยู่ได้ พ่อเป็นพนักงานจ่ายเงินของกรมท่าอากาศ เพื่อนก็รวบรวมเงินกันมาให้พ่อไปปล่อยกู้ สมมติว่าเขากู้ 4 บาท พ่อก็เอาค่าทำงานสัก 1 บาท

“แต่ต่อมา พอเจ้ากรมท่าอากาศรู้เข้า เขาก็บอกให้เลิกเก็บนะ ถ้าเก็บจะไล่ออก เพราะถือว่าปล่อยเงินกู้ พ่อก็ไม่กล้าเก็บ พ่อเป็นคนที่ซื่อน่ะครับ พอสิ้นเดือนจึงเอาเงินเดือนตัวเองไปจ่ายดอกแทนคนอื่น แต่ไม่มีเงินต้นคืน พอเก็บไม่ได้ ก็ศูนย์ หนักๆ เข้า มันก็ไม่มีกิน ก็ต้องไปกู้เงิน

“สมัยก่อนใช้จากทำหลังคาบ้าน หลังคารั่วก็ลำบาก เวลาฝนตกที พ่อแม่ ผม พี่สาวและน้องสาว ต้องไปกระจุกกันตรงที่ที่ไม่รั่ว... ทำให้ผมเกลียดคนปล่อยเงินกู้ เก็บดอกเบี้ยสูงๆ ชีวิตนี้ผมจึงให้คนยืมเงิน ไม่เคยเอาดอกเบี้ย แล้วส่วนมากก็จะศูนย์”

ชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชีวิตช่วงวัยโจ๋ เกือบตาย เพราะความรักเพื่อน

ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็ก พ่อของชัชจึงสอนให้เขาชกมวยตั้งแต่เด็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกข่มเหงรังแก ซึ่งเมื่อศึกษาจบในระดับมัธยม ชัช เตาปูน ก็เข้าเรียนที่โรงเรียนช่างก่อสร้างดุสิต และเคยมีเรื่องกับคู่กรณีของเพื่อน จนตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด

“เพื่อนชวนไปกินข้าวต้ม ระหว่างที่กิน ก็มีคนเอามีดมาจ่อคอเพื่อน ผมก็บอกว่า เฮ้ย เล่นที่เผลอนี่หว่า กลายเป็นเรื่องของเราไป เพื่อนก็ส่งมีดให้ ก็เลยแทงกัน เลือดเต็มร้านไปหมด โต๊ะล้มระเนระนาด ก็ต้องไปสู้คดี ตอนนั้นอายุแค่ 17 ปี ก็สู้คดีศาลเยาวชน โดนดูความประพฤติ 7 วัน กว่าจะได้รับการปล่อยตัว

“อีกหลายปีต่อมา ช่วงปี 2518 ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มาลง ส.ส.ในเขตนี้ ผมบอกเพื่อนคนนั้นว่า เฮ้ย ช่วยหน่อยวะ บอกคนให้ไปลงคะแนนให้อาจารย์คึกฤทธิ์หน่อย”

“มันบอกต้องให้มันแสนหนึ่ง มันจะทำให้ ผมนึกในใจ กูช่วยมึงขนาดนี้ ตัวกูถูกแทงตั้งหลายแผล เลยบอกมันว่าไปเถอะ เรื่องแค่นี้เอาเงิน ก็อย่ามาคบกันเลย ก็เลยเลิกคบ”

ชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคท้องถิ่นไท

จุดเปลี่ยนของชีวิต เรียนไม่จบ สู่เส้นทางนักพนัน

ชัชเล่าถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตอย่างเปิดอก ถึงเส้นทางที่พลิกผันทำให้เขาก้าวเข้าสู่วงการพนัน และด้วยความเป็นคนใจถึง พึ่งได้ ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทน ทำให้เขากลายเป็นผู้กว้างขวางที่มากบารมี และเป็นที่รู้จักในฉายา “ชัช เตาปูน”   

“ตอนเรียนก่อสร้างดุสิต เรื่องยกพวกตี ผมไม่เอาเลยครับ เพื่อนชวน ผมบอกกูไม่เอา มาเรียนหนังสือจะไปตีเขาทำไมวะ ไม่เห็นมีประโยชน์เลย ผมไม่กลัวคน แต่มันไม่จำเป็นต้องไปเป็นกลุ่ม ต้องยกพวกไปตีกัน

“ผมเรียนไม่จบ เพราะไม่ผ่านวิชาฝึกงาน แต่ข้อเขียนผ่านนะ สมัยวัยรุ่นเพื่อนชวนไปไหน เราก็ไป ก็เลยต้องออกมา  

“ตรงสถานีรถไฟบางซื่อ ผมก็ได้รู้จักพี่เอี้ยง แกก็ชวนไปเล่นไฮโล ผมก็ไป เพราะไม่รู้จะทำอะไร เรียนไม่จบ งานก็ไม่มีทำ แต่เรามีจิตมุ่งมั่น เราไม่ลักขโมยใครกิน ไม่ยุ่งยาเสพติด เพราะฉะนั้นผมมองว่า เราเล่นการพนันมันเป็นเรื่องของการเสี่ยง ได้ก็เอา เสียก็ให้ ไม่เห็นจะเลวตรงไหน

“ต่อมาก็ชักชวนมาเล่นที่บ้านผม เล่นทุกวัน วันหนึ่งเก็บต๋งได้ 2 พันบาท สัปดาห์หนึ่งได้หมื่นกว่า เลยเป็นสาเหตุทำให้ผมใจดีได้ แต่ถ้าผมเรียนจบปริญญาตรี ไปทำงานสมัยนั้นได้ 900 กว่าบาท ผมจะไปแจกเงินคนได้ไหม”

SpringNews จึงถามตรงๆ ว่า “เคสของคุณชัช สามารถใช้คำว่า เล่นการพนันจนรวยได้ไหมครับ ?”

“มันก็โชคดีน่ะครับ เมื่อก่อนมีคนชื่อทองใบ แกเก่ง (ไฮโล) หูแกดี แกฟังเสียงแล้วรู้ว่าจะออกอะไร แกก็สอนให้ผม แล้วเราอาจหัวไวด้วย ไม่กี่เดือนผมก็เก่ง แล้วก็ออกตระเวนเล่น

“เมื่อก่อนเล่นกันได้เสียเยอะ ไปแปดริ้ว ไปมหาชัย ตระเวนเล่นกัน เราก็โชคดีครับ พอตอนหลังๆ เนี่ย เล่นไม่เคยได้ ก็เลยเลิก ผมเลิกมาตั้งแต่ปี 2537 แล้วผมไม่เคยไปที่ไหนอีกเลย

“ตอนหลังๆ เล่นแล้วมีแต่เสีย คิดว่าแล้วจะเล่นทำไมวะ เหมือนตอนผมเรียนก่อสร้างดุสิต ผมสูบบุหรี่จนนิ้วเหลือง ผมก็เลิกสูบ สูบทำไมวะ ผมก็ตัดใจไม่เอา เพื่อนก็บอก ไอ้ห่า ทำเป็นคนดี ผมก็บอกมึงจะสูบก็สูบซิวะ กูไม่ได้ว่าอะไร”

ชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท

เป็น “เจ้าพ่อ” แต่ไม่ใช่ “มาเฟีย”

เป็นที่รับรู้กันดีว่า หากใครจะเรียกเขาว่า “เจ้าพ่อ” ชัชไม่โกรธเคือง แต่ห้ามเด็ดขาด ห้ามเรียกว่า “มาเฟีย” โดยชัชได้ให้เหตุผลดังนี้  

“เพราะ เราไม่เคยค้าผู้หญิง เราไม่เคยรับจ้างฆ่าคน เราไม่เคยค้ายาเสพติด เราสู้คน มันผิดตรงไหน ถูกไหมครับ ใครอยู่ๆ มาเกเรเรา เราก็ไม่ยอม

“การที่เราเป็นคนอย่างนี้ มันก็มีผลทางการเมือง ช่วง 14 ตุลาคม 2516 ที่มีการเดินขบวนไล่เผด็จการ หลังจากนั้นมีการเลือกตั้ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านลงสมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมลงไปช่วยท่านเต็มตัว แล้วท่านก็รักผม จะให้ตังค์ผม แต่ผมไม่เอา

“ต่อมามีชาวบ้านแจ้งว่า แถวบ้านเขาสะพานหัก ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ช่วยทำได้ไหม ถ้าทำได้เขาจะลงคะแนนให้ ผมจึงบอกท่าน ท่านก็ให้ตังค์มา 7 แสนบาท ผมก็เอามาทำสะพาน ฯลฯ เหลือแสนกว่าบาท ก็เอาไปคืนท่าน ท่านยกให้ผม แต่ผมไม่เอา ผมวางไว้ ท่านก็เลยรักผม

“ท่านบอกว่า เอ็งเป็นลูกพ่อสักคนไหม หาคนอย่างนี้มานานแล้ว ผมหัวเราะ ท่านบอกไอ้ห่า กูพูดจริงนะ กูไม่รวย แต่มึงกินไม่หมด ผมก็ยกมือไหว้ท่าน”

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯ

เข้ามาช่วยงานที่ “สยามรัฐ” จิตวิญญาณของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์

หลังจาก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ขึ้นเป็นนายกฯ จากการเดินเกมที่เหนือชั้นในสภา ทั้งๆ ที่พรรคได้ ส.ส. เพียง 18 คน ทำให้ไม่มีเวลาบริหารจัดการหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ที่ท่านเป็นผู้ก่อตั้ง จึงได้ขอให้ชัช เข้ามาช่วยงาน รวมถึงแก้ปัญหาต่างๆ

“ตอนนั้นสถานการณ์ของหนังสือพิมพ์สยามรัฐค่อนข้างแย่ ท่านก็บอกผมว่า ไปดูซิลูก มันเป็นอย่างไร เก็บตังค์ไม่ได้เลย ทำไมยอดขายหนังสือตกมากเหลือเกิน ผมจึงเข้าไปดู แล้วปรากฏว่า พวกที่รับหนังสือพิมพ์ไปขาย ไม่ยอมส่งเงิน ผมจึงเรียกประชุม

“พวกนั้นก็บอกว่า เอาเงินไปซื้อบ้านหมดแล้ว ผมก็ให้เอาโฉนดไปเข้าธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ (ธนาคารของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์) เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ให้กับสยามรัฐ

“ต่อมาผมก็บอกท่านว่า ถ้าจะขายให้ได้มากขึ้นกว่านี้ หนังสือพิมพ์ต้องออกก่อนเที่ยง แล้วผมจัดเด็กไปลงตามสี่แยก 40 -50 คน ยืนขายบ้าง นำหนังสือพิมพ์ไปขายตามร้านอาหาร (ช่วงพักเที่ยง ร้านอาหารต่างๆ คนจะเยอะมาก) หลังจากนั้นยอดขายก็เพิ่มขึ้นเยอะมาก ท่านก็บอก เอ็งทำได้นี่ลูก ผมบอกไม่ใช่เพราะผมหรอก แต่เป็นเพราะคนชอบที่พ่อเขียน

“สมัยนั้น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เขียนอะไรเหมือนเป็นคัมภีร์เลยนะ คนเชื่อถือมาก เราเพียงทำหน้าที่เอาไปให้ถึงมือคนอ่าน แล้วยอดขายก็เพิ่มขึ้นมาหลายหมื่นฉบับ”

“ต่อมาท่านบอกว่า พ่ออยากจะให้ได้ยอดขายสักแสนฉบับ ผมก็บอกท่านว่า ถ้าเช่นนั้นต้องส่งต่างจังหวัดด้วย แต่ต้องคุมยอดส่งคืน ไม่ให้เกิน 10 % ท่านก็ให้ผมไปสำรวจ ผมก็ไปตระเวน 16 จังหวัดภาคอีสาน หาเอเย่นต์เหนื่อยจะตาย แต่ผู้บริหารบางคนในเวลานั้น ไม่ยอมให้ทำ”

ชัชเล่าว่า ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร กระทั่งวันหนึ่งผู้บริหารคนดังกล่าว สั่งให้พนักงานที่ได้เบิกเงิน 2,000 บาท อย่างถูกต้อง ให้คืนเงิน ทั้งๆ ชัชเซ็นอนุมัติไปแล้ว ทำให้เลือดนักเลงของชัชพลุ่งพล่าน  

“ผมควักเงินของผมให้แทน แล้วถามเขาว่า ผมมีสิทธิ์เซ็นอนุมัติไหม ถ้าผมมีสิทธิ์ แล้วพี่ไปเอาเงินคืนได้ไง โอเคพี่ ผมเข้าใจแล้ว งั้นผมออกดีกว่า

“เขาก็ขอร้องว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ และขอจับมือ ผมบอกว่า พี่อย่าจับมือกับผมเลย มือพี่สกปรก แล้วผมก็เดินออกมา เรื่องนี้อาจารย์ (ม.ร.ว.คึกฤทธิ์) ก็ไม่รู้ครับ”

กระทั่งต่อมา ในปี 2539 ชัชก็ได้รับความไว้วางใจจาก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ให้สืบสานกิจการหนังสือพิมพ์สยามรัฐ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้  

ชัช ชัดเจน สนับสนุนให้บ่อนการพนันถูกกฎหมาย  

ตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา ประเด็นการเปิดบ่อนเสรี มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดย ชัช เตาปูน ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจน สนับสนุนให้บ่อนการพนันเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย เพื่อจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง สร้างรายได้ให้กับประเทศ      

“เคยมีนักวิชาการทำวิจัยว่า สิงคโปร์ปีหนึ่งเก็บภาษีจากบ่อนการพนันได้แสนห้าหมื่นล้านบาท ฉะนั้นถ้า (ประเทศไทย) ทำให้มันถูกต้อง เงินภาษีที่ได้จากธุรกิจประเภทนี้ ก็จะสามารถนำไปใช้หนี้ให้กับประเทศได้ ไม่ต้องไปกู้ใคร เอาเงินตรงนี้ไปใช้หนี้ให้กับเด็กที่กู้เงินเรียน ให้เกษตรกรที่โดนภัยธรรมชาติ”

“กรณีบ่อนการพนัน บ่อนออนไลน์ ทำให้มันถูกต้องซะ เอาเงินมาช่วยให้เด็กเรียนฟรี เอามาช่วยใช้หนี้ใช้สินให้เกษตรกรชาวไร่ชาวนา มาช่วยใช้หนี้ให้ครู ซึ่งถ้าเราเก็บเงินจากตรงนี้ได้เยอะๆ ก็อาจจัดตั้งเป็นกองทุนรวมเพื่อให้การช่วยเหลือต่างๆ ได้”  

ชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท

บทสรุปชีวิต 78 ปี ของ ชัช เตาปูน ผู้ชายหลายมิติ

ชัช เตาปูน เข้าสู่ถนนการเมืองอย่างเต็มตัว ในการลงสมัคร ส.ว.และได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2543 หลังสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์ และ ปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนจะก่อตั้งพรรคการเมืองพลังท้องถิ่นไท ในปี 2555 และการเลือกตั้ง ปี 2562 ชัชก็ได้เข้าสภาในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค

นอกจากบทบาท อดีตนักพนัน เจ้าพ่อ เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ และนักการเมือง ฯลฯ  ชัช เตาปูน ยังเคยเป็นนักร้อง ในระดับเคยออกอัลบัมอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล และ บนเส้นทางของฉัน กับค่ายเพลงนิธิทัศน์ ซึ่งเป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในเวลานั้น และสุดท้ายนี้ ชัช เตาปูน ได้กล่าวสรุปชีวิตของตัวเองตลอด 78 ปี ไว้ว่า  

“ใจผมนะ สำหรับผมน่ะ ตั้งแต่เด็ก คือจิตเรามุ่งมั่น เราจะไม่รังแกใคร ไม่เอาเปรียบใคร เรื่องลักขโมยจี้ปล้น เราไม่เอาเด็ดขาด นี่คือปณิธานที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นที่มาได้ทุกวันนี้ ก็มาจากที่เราคิดว่า อะไรที่ไม่ดี อย่างการลักขโมยเขา ยาเสพติด จี้ปล้น เราไม่เอาเด็ดขาด

“เราถือว่า เราไม่มีอาชีพ เรียนก็ไม่จบ เราจะทำอะไรกินดีวะ ผมนึกในใจอย่างนั้นน่ะครับ ก็เล่นการพนันดีกว่า เล่นการพนันถือว่า มันเป็นเรื่องของการวัดดวง การเสี่ยง

“ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชีวิตผมอาจจะโชคดี ตอนเด็กๆ ไปเจอคนเก่งๆ เขาสอนให้ ทำให้เรายืนอยู่ได้ แล้วเราก็มีปณิธานอันแน่วแน่เลยว่า เราไม่เบียดเบียนใคร เราไม่เอาของใคร เราไม่ลักขโมยใคร ยาเสพติด เราไม่ยอมเด็ดขาด

“อยู่กับเพื่อน เราไม่เคยไปข่มเพื่อน ความรักมันก็เกิดขึ้น เพื่อนมีเรื่องเราช่วย แต่ถ้าไปเกเรเขา เราก็ไม่เอา มันก็เลยเกิดความเกรงใจ สร้างสมมาทีละนิดน่ะครับ หรืออย่างในสภา ผมไม่เคยไปด่าว่าใคร แต่ถ้าอะไรที่มันเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เราทำ”

related