แพนด้า "หยาหยา" กลับถึงจีนแล้ว หลังดราม่า ถูกเลี้ยงดูไม่ดีในสวนสัตว์สหรัฐฯ

เป็นประเด็นร้อนแรงบนสื่อโซเชี่ยลของจีน หลังจากภารกิจนำแพนด้า หยาหยา กลับบ้านเกิดที่จีนเป็นไปอย่างเรียบร้อย เมื่อวันพฤหัสบดี (28 เม.ย. 2023) ที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้ สวนสัตว์เมมฟิซ (Memphis Zoo) ในรัฐเทนเนสซี, สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้รับดูแล หยาหยา ถูกแฉว่าดูแลหยาหยาไม่ดี และทำให้คู่หูของหยาหยา อย่างเลอเล่อ ตายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยโรคหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

ในช่วงปี 2020 เกิดประเด็นร้อนบนโซเชี่ยลของจีนมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังมีผู้ใช้ Weibo แพลตฟอร์มของจีนรายหนึ่งโพสต์ภาพของหยาหยา (YaYa) และ เลอเล่อ (LeLe) จากสวนสัตว์เมมฟิซในสภาพที่ผอมโซ ขนแห้งแข็งและหลุดร่วง นำไปสู่การวิพากร์วิจารณ์เป็นวงกว้างว่า ทำไมสวนสัตว์สหรัฐฯจึงไม่ดูแลแพนด้าของจีนให้ดีกว่านี้

แพนด้า หยาหยา และ เลอเล่อ ถูกส่งไปอเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว (ตอนนี้มีอายุ 22 ปี) พวกมันเดินทางไปในฐานะตัวแทนมิตรภาพระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา อีกทั้ง ทั้งคู่ยังเป็น Soft Power สี่ขาของปักกิ่งด้วย แต่การส่งไปนั้นไม่ได้ให้ไปฟรี ๆ สหรัฐอเมริกาจะต้องเช่าพวกมันในราคา 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี ภายใต้สัญญาการดูแล 10 ปีด้วย และถ้าเกิดทั้งคู่มีลูก อเมริกาก็ต้องมอบเงินอีก 400,000 ดอลลาร์สหรัฐให้กับจีน เพื่อนำไปอนุรักษ์พันธุ์แพนด้าภายในประเทศต่อไป

แต่การพบกันของนักท่องเที่ยวชาวจีนและแพนด้าหยาหยาในสวนสัตว์เมมฟิซปี 2020 นำไปสู่การโต้เถียงกันว่าแท้จริงแล้วการดูแลแพนด้าของสหรัฐฯเป็นไปด้วยดีจริงหรือไม่ จนมาถึงปี 2023 นี้ก็ได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไปเยี่ยมหยาหยา และพบว่ามันยังไม่ดีขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ภาพสุดท้าย "หลินฮุ่ย" พบเลือดกำเดาไหลก่อนตาย สวนสัตว์แจงไร้สัญญาณป่วย

• “อันอัน” สุดเศร้า หมีแพนด้ายักษ์อายุมากที่สุดในโลกวัย 35 ปี ตายแล้ว!

• ช่วยเหลือเร่งด่วน แพนด้าในสวนสัตว์เมมฟิสของสหรัฐฯ หลังพบภาวะเครียดรุนแรง

ทางด้านสวนสัตว์เมมฟิซเองก็ได้ออกมาอธิบายถึงรูปร่างของหยาหยา ว่าสาเหตุที่เป็นแบบนั้น เป็นผลมาจากพันธุกรรมของแพนด้า สวนสัตว์ปฏิเสธว่า แพนด้าทั้งสองตัวไม่ได้ถูกทำร้ายหรือเกิดอันตรายใด ๆ แก่พวกมัน และเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ก็ดูแลพวกมันอย่างใกล้ชิดด้วยดีเสมอมา

และแน่นอนว่าสวนสัตว์มีการตรวจสุขภาพประจำปี และผลจากการตรวจเลือดเราก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ จากแพนด้าทั้ง 2 และยิ่งไปกว่านั้น แพนด้าก็เป็นที่รักของคนอเมริกามาอย่างต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว

แต่การส่งกลับครั้งนี้ กลายเป็นรอยร้าวระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่ดูจะใหญ่ขึ้น ท่ามกลางการห้ำหั่นของ 2 ชาติเรื่องข้อขัดแย้งต่าง ๆ

หลายสำนักข่าวต่างประเทศได้ทำการวิเคราะห์ถึงความบาดหมางในครั้งนี้ โดยบางสื่อรายงานว่า ผู้คนชาวจีนให้ความเห็นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และมีการเปรียบเทียบระหว่างแพนด้าอีก 2 ตัวในสวนสัตว์มอสโคว์ของรัสเซียที่ถูกดูแลอย่างดี

ซึ่งข้อมูลจากทางนั้นถูกครอบงำโดยสื่อของทางการจีน ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนรัสเซีย ตั้งแต่การรุกรานยูเครน ซึ่งพวกเขาก็ให้ความรู้สึกต่อต้านสหรัฐอเมริกาอยู่เนือง ๆ

และบางสื่อก็เผยว่า อาจเป็นเพราะสถานการณ์ตึงเครียดเหนือไต้หวัน จากการที่สหรัฐฯยิงบอลลูนสอดแนมของจีนตก ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติและทำให้ผู้คนไม่พอใจเป็นอย่างมากและพยายามโจมตีต่อกัน โดยผู้คนในจีนมองว่า สิ่งใดก็ตามจากสหรัฐฯเริ่มเป็นภัยคุกคามต่อจีน

• พลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยในศรีลังกา ถูกใช้งานจนเกือบพิการ รอวันกลับบ้าน

• "ปางช้าง" โต้เดือด! "นั่งแหย่งบนหลังช้าง" ไม่ได้ทรมานสัตว์ หลังโดนวิจารณ์

แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 นี้ยังมีนักท่องเที่ยวบางคนถ่ายภาพของหยาหยาในสวนสัตว์มาและพบว่าสภาพของมันยังดูไม่ดีนัก ไม่อ้วนท้วมและฟูฟ่องเหมือนสัตว์ตัวอื่น ๆ และขนก็หายไปเป็นกระจุก ๆ แม้สวนสัตว์จะพยายามปฏิเสธข้อหานี้มานานตั้งแต่เกิดดราม่าและมีการโพสต์ภาพให้ผู้คนได้ติดตามเธอต่อเนื่องผ่านหน้าเฟซบุ๊กเพจ ซึ่งเธอเองก็ดูมีความสุขดี

สภาพที่เห็นนำไปสู่การเรียกร้องให้นำหยาหยากลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดในจีน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ นำโดยกลุ่ม Panda Voices ที่ก่อตั้งโดยนักศึกษาชาวจีน ที่เปิดแคมเปญรณรงค์ออนไลน์ และก็ทำให้หยาหยาได้เดินทางกลับถึงจีนไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ มีผู้คนหลายพันคนร่วมกันติดตามการกลับบ้านแบบเรียลไทม์ของหยาหยา โดยเครื่องบินพิเศษ “แพนด้า เอ็กซ์เพรส” ของเฟดเอ็กซ์ โดยใช้เวลา 16 ชั่วโมงกว่าหยาหยาจะเดินทางถึงเซี่ยงไฮ้

ในความเป็นจริง ในปี 2023 นี้ ครบกำหนดการสัญญาเช่าพอดี ของการเช่าแพนด้าทั้ง 2 และเตรียมที่จะส่งหยาหยา และเลอเล่อกลับบ้านในช่วงต้นปี แต่เลอเล่อก็มาเสียชีวิตไปเสียก่อน และสวนสัตว์ยังคงยืนยันคำเดิมว่า แพนด้ายังคงมีสุขภาพดีจนกระทั่งเสียชีวิต

แต่ในท้ายที่สุด ไม่ว่าเรื่องราวของทั้งสองชาติจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เราควรให้ความสนใจมากที่สุดคือสวัสดิภาพของพวกมันในด้านการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดตามธรรมชาติจริง ๆ ในอดีต สัตว์หลายชนิดถูกส่งข้ามประเทศไปมาเหมือนสินค้าในฐานะสัตว์การทูต แต่ในยุคปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือความสัมพันธ์ทางการเมืองต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีของกำนัลเป็นสิ่งมีชีวิตก็ได้

ซึ่งหลายทศวรรษที่ผ่านมา การส่งสัตว์ไปเป็นสัตว์ทูตถูกยุติไปหลายประเทศแล้ว เพราะถูกมองว่าเป็นการทรมานสัตว์ และจะดีกว่าหากให้สัตว์ยังคงอยู่ในสภาพแวดล้อมภูมิภาคบ้านเกิดเดิมของพวกในและอยู่ในมือของผู้ดูแลที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะต่อไป

ที่มาข้อมูล

CNN 

BBC