svasdssvasds

ดร.อนันต์ เผยเคส 2 ผู้ป่วยโอไมครอนในไทย มีคุณสมบัติแตกต่างกันชัดเจน

ดร.อนันต์ เผยเคส 2 ผู้ป่วยโอไมครอนในไทย มีคุณสมบัติแตกต่างกันชัดเจน

ดร.อนันต์ เผยเคสผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ในไทย ทั้ง 2 ราย มีเคสที่น่าสนใจ เพราะคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างชัดเจน

วันนี้ (15 ม.ค.65) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ โอมิครอน

โดยระว่า "***เคสน่าสนใจของโอมิครอนในประเทศไทย***

เมื่อช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา J และ K ได้เดินทางไปพักผ่อนที่เกาะแห่งหนึ่งในภาคใต้ของไทย กลับมาทั้งคู่มีอาการน่าสงสัยเลยไปซื้อ ATK มาตรวจพบผลเป็นบวกทั้งคู่

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันตลอดจึงเป็นไปได้สูงว่าจะติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดียวกัน ในวันเดียวกันทั้งคู่ได้ส่งตัวอย่างน้ำลายมาให้ผมเพาะเชื้อ และ ได้ทำการตรวจ ATK ทุกวันเพื่อดูระดับของไวรัสในร่างกายตั้งแต่วันแรกที่เริ่มตรวจพบเชื้อ K มีอาการไม่มาก ในขณะที่ J มีอาการชัดเจนกว่า แต่ไม่หนักมากจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทั้งคู่ home isolation อยู่ด้วยกัน

เมื่อนำตัวอย่างน้ำลายมาเพาะเชื้อแล้วพบสิ่งที่น่าสนใจมากครับ ตัวอย่างไวรัสจาก J สามารถติดเชื้อเข้าเซลล์ได้อย่างรวดเร็วมีการหลอมรวมกันของเซลล์ เหมือนที่พบได้ในเซลล์ที่ติดไวรัสเดลต้า

ขณะที่ไวรัสจาก K ติดเชื้อได้ไม่ดี เซลล์เปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ชัด และใช้เวลาหลายวันกว่าเชื้อจะเพิ่มจำนวนจนตรวจสอบได้ ทำให้คาดว่า J คงติดเดลต้ามา และ K อาจติดโอมิครอน แต่เมื่อนำ RNA ของไวรัสมาตรวจสอบเพิ่มเติมโดยใช้ชุดไพรเมอร์ที่ออกแบบให้แยกไวรัส 2 สายพันธุ์ได้ พบว่า ไวรัสของทั้ง 2 คน เป็นโอมิครอนทั้งคู่ แต่ โอมิครอนของทั้ง 2 คน มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ของ K เหมือนกับที่หลายที่รายงานว่า ติดเซลล์ได้ช้าและไม่ทำให้เซลล์เกิดการรวมตัวกัน ในขณะที่ J เป็น โอมิครอนที่มีลักษณะเหมือนที่พบไวรัสเดลต้า

ผลจากการตรวจ ATK เป็นประจำทุกวันของทั้ง 2 คน เหมือนจะสอดคล้อง คือ ปริมาณไวรัสในตัว K ลดลงไวมากภายใน 3 วัน ขณะที่ปริมาณไวรัสใน J เป็นแถบสีเข้มมากเป็นเวลานานถึง 8 วัน

ก่อนเริ่มลดลงอย่างเห็นชัดในวันที่ 9 ซึ่งบ่งชี้ว่าปริมาณไวรัสใน J มีสูงและอยู่ในร่างกายนานกว่า K ชัดเจน ที่น่าสนใจคือ K ได้รับวัคซีน AZ มา 2 เข็ม ในขณะที่ J ได้วัคซีน Pz เข็มที่ 3 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการศึกษาข้อมูลเชิงลึกโดยการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสทั้ง 2 สายพันธุ์ ซึ่งเชื่อว่ามีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน ทีมวิจัยคงรวบรวมผลวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในเร็วๆนี้

ไวรัสโอมิครอนดูเหมือนจะมีความหลากหลายในตัวเอง ข้อมูลส่วนใหญ่ที่มีตอนนี้มาจากสายพันธุ์หลักที่ระบาดเป็นวงกว้าง ขณะที่โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอาจมีความแตกต่างกันทางไวรัสวิทยาอย่างชัดเจน ในประเทศไทยก็สามารถตรวจพบโอมิครอนที่แตกต่างกันได้ เราต้องทำความรู้จักไวรัสตัวนี้ให้มากขึ้นกว่านี้มาก ก่อนจะมีข้อสรุปอะไรที่ชัดเจนครับ"

related