EU จัดระเบียบบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
สหภาพยุโรป จัดระเบียบอุตสาหกรรมดิจิทัลครั้งใหม่ พุ่งเป้าไปที่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลก เพื่อสร้างความยุติธรรมให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกฎการแข่งขันที่ครอบคลุมสำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ (บิ๊กเทค Big Tech) ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนระดับโลกสำหรับกฎระเบียบด้านเทคโนโลยี
กรอบการทำงานที่เสนอนี้เรียกว่าพระราชบัญญัติตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act: DMA) สามารถระบุบริษัทขนาดใหญ่เช่น Meta ที่เป็นบริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram หรือ Google ว่าเป็น "คนเฝ้าประตู" (Gatekeepers) และอยู่ภายใต้ข้อกำหนดและข้อห้ามใหม่
ตัวอย่างเช่น ภายใต้ DMA บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจะต้องเปิดให้บุคคลที่สามเข้าถึงแพลตฟอร์มของตนได้ และจะถูกห้ามให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และบริการของตนเหนือผู้ให้บริการคู่แข่ง แพลตฟอร์มจะไม่สามารถผลักดันผู้ใช้ไปยังแอพหรือผลิตภัณฑ์บางอย่างได้ง่าย ๆ โดยการติดตั้งล่วงหน้าบนอุปกรณ์และทำให้เป็นค่าเริ่มต้น และร้านแอปจะต้องอนุญาตระบบการชำระเงินของบุคคลที่สาม แทนที่จะกำหนดให้นักพัฒนาแอปใช้ระบบของเจ้าของแพลตฟอร์ม
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
- สหรัฐฯ - EU เจรจาสำเร็จข้อตกลงใหม่ถ่ายโอนข้อมูลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
- วิธีเช็ก 3 โซเชียล ใครแอบ Log in ของเราบ้าง Facebook / IG / Gmail
- ตุรกี ทุ่มลงทุนสุดตัวใน Metaverse แต่ประชาชนพร้อมแล้วหรือยัง ?
ในระหว่างการเจรจา ฝ่ายนิติบัญญัติของยุโรปยังเห็นพ้องต้องกันว่าบริการส่งข้อความออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น WhatsApp และ iMessage จะต้องเข้ากันได้กับผู้ให้บริการรับส่งข้อความรายอื่น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความข้ามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นการจากไปของบริการเหล่านั้นในปัจจุบัน
การละเมิด DMA ซ้ำ ๆ อาจส่งผลให้ต้องเสียค่าปรับสูงถึง 20% ของรายได้ทั่วโลกของบริษัทตามการเปิดเผย
กฎใหม่ยังต้องได้รับการสรุป แต่คาดว่าจะมีผลในเดือนตุลาคม มาร์เกรต้า เวสเทเจอร์ (Margrethe Vestager) รองประธานบริหารคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในการแถลงข่าว
"แพลตฟอร์ม Gatekeepers ขนาดใหญ่ได้ป้องกันธุรกิจและผู้บริโภคจากผลประโยชน์ของตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ Gatekeepers จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและข้อห้ามที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน กฎระเบียบนี้ ร่วมกับการบังคับใช้กฎหมายที่มีการแข่งขันสูง จะนำเงื่อนไขที่ยุติธรรมกว่ามาสู่ผู้บริโภคและธุรกิจสำหรับบริการดิจิทัลจำนวนมากทั่วสหภาพยุโรป" เวสเทเจอร์ กล่าวในแถลงการณ์
ผู้ให้บริการที่อยู่ภายใต้กฎหมายจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดภายใน 6 เดือนหลังจากถูกกำหนดให้เป็น Gatekeepers
ในการพิจารณาให้เป็น Gatekeepers แพลตฟอร์มจะต้องเป็น "บริการแพลตฟอร์มหลัก" เช่น โซเชียลมีเดีย หรือผู้ให้บริการเสิร์ชเอ็นจิ้น หรือ AppStore หรือผู้ประกอบการตลาดดิจิทัล หมวดหมู่นี้ยังครอบคลุมถึง เว็บเบราว์เซอร์ , Voice Assistants และบริการคลาวด์ด้วย
Gatekeepers จะต้องมีผู้ใช้ในสหภาพยุโรปอย่างน้อย 45 ล้านคน/เดือน และผู้ใช้งานทางธุรกิจ 10,000 ราย/ปี รวมถึงจะต้องมีรายรับภายในสหภาพยุโรปอย่างน้อย 7.5 พันล้านยูโร (2.78 แสนล้านบาท) หรือมูลค่าตลาดอย่างน้อย 7.5 หมื่นล้านยูโร (2.78 ล้านล้านบาท)
กฎที่ออกมานี้เป็นหัวข้อของการล็อบบี้อย่างเข้มข้นโดยยักษ์ใหญ่ในซิลิคอน วัลเลย์
ในแถลงการณ์ Apple กล่าวว่ามีความกังวลว่าบางส่วนของ DMA อาจส่งผลให้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยลดลงสำหรับผู้ใช้ "ในขณะที่คนอื่นจะห้ามไม่ให้เราเรียกเก็บเงินจากทรัพย์สินทางปัญญาที่เราลงทุนเป็นจำนวนมาก"
Google กล่าวในแถลงการณ์ว่าข้อตกลงเกี่ยวกับ DMA จะมี "ผลกระทบที่สำคัญ"
"ในขณะที่เราสนับสนุนความทะเยอทะยานของ DMA หลายประการเกี่ยวกับทางเลือกของผู้บริโภคและความสามารถในการทำงานร่วมกัน เรายังคงกังวลว่ากฎเกณฑ์บางอย่างอาจลดนวัตกรรมและทางเลือกที่มีให้สำหรับชาวยุโรป เป้าหมายของเราตลอดเวลาคือการมอบประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ในยุโรปของเราต่อไป" Google กล่าว
ข้อตกลงครั้งสำคัญเน้นการเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นของผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกเพื่อควบคุมแพลตฟอร์มเทคโนโลยี เวสเทเจอร์ กล่าว
พร้อมเสริมด้วยว่า "นี่เป็นการเคลื่อนไหวระดับโลก และฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ ยิ่งเราสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน เพื่อให้มีการบังคับใช้และทำให้แน่ใจว่าตลาดดิจิทัลมีความยุติธรรม เปิดกว้าง และสามารถแข่งขันได้ยิ่งดี"
