svasdssvasds

"ทนายเอ็ม" แจงชัดไม่ใช่กุนซือแก๊งคนบนเรือคดี "แตงโม นิดา" ขู่ฟ้องคนพาดพิง

"ทนายเอ็ม" แจงชัดไม่ใช่กุนซือแก๊งคนบนเรือคดี "แตงโม นิดา" ขู่ฟ้องคนพาดพิง

"ทนายเอ็ม" โพสต์ชี้แจงละเอียด พร้อมยืนยันว่าตนไม่ใช่ "กุนซือ" ให้ผู้ต้องหาบนเรือที่ "แตงโม นิดา" พลัดตกน้ำดับ ขู่ฟ้องคนที่กล่าวพาดพิง ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว จากเหตุการณ์ที่ "แตงโม นิดา" นักแสดงสาวชื่อดัง พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ทที่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยเหตุการณ์ของ "แตงโม นิดา" ที่เกิดขึ้น เป็นที่จับตามองของสังคมและในโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายพร้อมกับคำถามและข้อสงสัย โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “กุนซือ” ที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายอยู่เบื้องหลัง

 ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า “กุนซือ” ที่ให้คำปรึกษาคือบุคคลที่ชื่อ “ทนายเอ็ม” หลังจากนั้นทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่ “แตงโม” ยืนยันว่า "นายเอ็ม" กุนซือที่เข้าพบตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ไม่ใช่ “ทนายความ” แต่เป็นเพียงแค่เจ้าของร้านอาหาร

 ต่อมานายอนุชา เนติบัณฑิต ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ทนายเอ็ม” ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ไม่ใช่ “กุนซือ” ของกลุ่มผู้ต้องหา แม้จะเคยเข้าพบพูดคุยกันจริง และไม่เคยถูกตำรวจออกหมายเรียก หรือแจ้งข้อกล่าวหา แต่เหมือนสมาชิกโซเชียลบางส่วนยังเข้าใจผิดอยู่นั้น โดยระบุว่า

เรียน…พี่ๆสำนักข่าวทุกช่อง และประชาชนที่สนใจครับ

 เนื่องจากเมื่อวานนี้ (8 เมษายน 65) เวลา 13.45 ผมได้ให้สัมภาษณ์ข่าว (สำนักข่าวอัมรินทร์ ทีวี) พร้อมได้ชี้แจงพยานหลักฐานต่างๆ แล้วว่าผมไม่ได้เป็นกุนซือให้กับทีมเรือสปีดโบ๊ทแต่อย่างใด ดังนั้น ตามที่พี่ๆ สำนักข่าว ได้ติดต่อผมมาหลายสำนักข่าว ผมเองมีงานเยอะมากที่ต้องจัดการ และผมกลัวว่าจะมีคนหาว่าผมสร้างกระแส(หิวแสง)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ทนายเดชา-แม่แตงโม เข้าสอบปากคำเพิ่ม ยันเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

• "กระติก อิจศรินทร์" สารภาพหมดเปลือก รับให้การเท็จคดี "แตงโม นิดา"

• เบิร์ด แฟน แตงโม นิดา เตือนภัยมิจฉาชีพ ยืนยันไม่มีการเปิดขายเสื้อรอบ 2

 ดังนั้น ผมจึงขอสรุปคำชี้แจงของผมไว้ในประกาศนี้ เพื่อให้สำนักข่าวใช้เป็นข้อมูลโดยที่ไม่ต้องมาสัมภาษณ์ผมอีกนะครับ

• เหตุผลที่ผมไม่เคยโต้แย้งว่าเป็นกุนซือฯ ตั้งแต่แรกและไม่เคยนำเสนอตัวเองในข่าวมาก่อน ก็เพราะผมไม่คิดว่าการให้ความเห็นทางกฎหมายจะเป็นเรื่องที่ผิดอะไร เพราะผมมีอาชีพเป็นทนายความ ดังนั้น ที่ผมให้ความเห็นไป จึงเป็นการทำงานในวิชาชีพของผมในรูปแบบปกติดังเช่นทุกๆ งานอยู่แล้ว ประกอบกับผมไม่ชอบออกสื่อ ผมชอบทำงานเงียบๆ ผมจึงไม่มีหน้าที่ที่จะต้องไปขอออกข่าวหรือแถลงข่าวให้ผู้อื่นทราบแต่อย่างใด

• เหตุการณ์ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 14.00-15.30 น. ซึ่งเป็นวันที่ผมได้ไปพบเจอกับกลุ่มคนในเรือ (ปอ-กระติก-แซน) เพียง 3 คนเท่านั้น ส่วนเบิร์ด และจ๊อบ ผมไม่เคยเจอเลย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด ตลอดจนพฤติกรรมต่างๆ ผมได้ไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในคดีนี้แล้วตั้งแต่ วันที่ 7 มีนาคม 2565 โดยให้การอย่างละเอียดพร้อมกับแนบพยานหลักฐานให้แก่พนักงานสอบสวนแล้ว ดังนั้น ด้วยความบริสุทธิ์ใจของผมและน้องๆในทีมที่ไปรับฟังข้อเท็จจริงในวันนั้น เราได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งผมไม่เคยถูกออกหมายเรียกหรือหมายจับแต่อย่างใด

• ผมไม่ได้เป็นกุนซือ ด้วยเหตุผลสำคัญๆ ดังนี้

1.เรื่องนี้ ผมไม่เคยรับเงินจากใครแม้แต่บาทเดียว

2.ผมยังไม่เคยตกลงรับเป็นทนายความให้ใครในเรือเลยแม้แต่คนเดียว

 

3.ผมได้คุยกับคนทั้งสามต่อหน้าที่ร้านอาหารทองหล่อ แค่ 1 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น ถ้าตำรวจจะเอาเบอร์โทรศัพท์ผม ไปหาข้อมูลโดยใช้เครื่องเซลเลไบร์ทเพื่อดูว่าสายที่โทรเข้าโทรออกจากเบอร์ผม ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

4.ผมไม่เคยคุยโทรศัพท์กับคนบนเรือเลยแม้แต่ครั้งเดียว

5.ให้ทุกๆท่าน มาตรวจสอบTimeline ในเฟซบุ๊กของผมได้ว่า หลังวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 65 ผมทำงานคดีอื่น และตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 65 - 6 มีนาคม 65 ผมอยู่ต่างจังหวัด( จ.ร้อยเอ็ด และ จ.นครพนม ) ถ้าคิดว่าจะติดต่อกันวิธีอื่น ก็มาตรวจสอบโทรศัพท์ของผม หรือของภรรยา หรือตรวจอีเมล์ ไลน์ เฟสบุ๊ก ก็มาตรวจได้เลย

6.เรื่องอื่นๆ ท่านสามารถไปสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักข่าวอัมรินทร์ เพราะผมอธิบายให้นักข่าวไปเป็นชั่วโมงเลย

 ปล. ผมไม่อยากนำเสนอตัวในข่าว เพราะผมรับกับความคิดอคติของคนบางคนไม่ได้ เช่น ถ้าออกข่าว ก็ว่าหิวแสง ถ้าไม่ออกข่าว ก็ว่าปกปิด มีพฤติการณ์น่าสงสัย ..พูดอะไรไป ก็ไม่เชื่อ ว่าโกหก ทั้งๆที่เอาหลักฐานมากางให้ดู…ขอให้พี่ๆนักข่าวเข้าใจผมบ้างครับ

 หมายเหตุ ผมได้ออกข่าวและนำเสนอชื่อนามสกุลจริงของผมต่อสาธารณชนแล้ว ผู้ใดที่กล่าวหาผม ไม่ว่าจะโพสต์หรือคอมเม้นท์ในทางที่เสียหาย ผมยืนยันว่าจะดำเนินคดีแพ่งและอาญาอย่างถึงที่สุด

“…ถ้าทนายความ ปกป้องตัวเองยังไม่ได้ อย่าคิดที่จะไปปกป้องคนอื่น”

ถือว่าผมเตือนแล้วนะ …และในศาล ผมไม่ใช่คนใจดีนะครับ

ที่มา : นายอนุชา เนติบัณฑิต

related