ทำไม บัตรเลือกตั้ง ถึงไม่ระบุชื่อคนออกเสียง-เขตเลือกตั้ง เปิดช่องทางโกง ?

บัตรเลือกตั้ง บัตรที่ผู้ใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกผู้แทนเข้าไปทำงานในรัฐสภา ตามกระบวนการประชาธิปไตย ในการเลือกตั้ง แต่ต้องไม่สามารถระบุตัวตนของผู้กาได้ กลายเป็นข้อสงสัยของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า "ทำไมถึงไม่ใส่ชื่อคนออกเสียง หรือ เขตเลือกตั้ง จากบัตรใบนั้น ๆ ลงไปในบัตรเลือกตั้ง เพื่อป้องกันการโกง"

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• 7 ข้อห้ามผู้ใช้สิทธิ กาบัตรเลือกตั้ง 2566 ใครทำผิด คุก 10 ปี ปรับ 2 แสน
• บัตรประชาชนดิจิทัล เลือกตั้ง 66 ได้ไหม ? กกต. บอกชัด ต้องผ่าน 3 แอปฯนี้เท่านั้น
• เปิดตัวเลขบัตรเสียเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด 2544-2562 จำนวนมากแค่ไหน ?

บัตรเลือกตั้งไม่ระบุชื่อ-หน่วย-เขตเลือกตั้ง เพราะกันทุจริต

สำหรับสาเหตุที่บัตรเลือกตั้งที่ถูกเลือกและหย่อนลงหีบไปแล้วไม่มีสัญญาลักษณ์และรายละเอียดเพิ่มเติมว่ามาจากเขตไหน ใครเป็นผู้กา เพื่อป้องกันการทุจริตจากผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง เพราะหากระบุว่ามาจากเขตไหน หน่วยไหน หรือใครเป็นผู้กา จะทำให้เกิดการทุจริตได้ เช่น ผู้สมัครที่ซื้อเสียงไปแล้วจะสามารถเช็กชื่อได้ทันทีว่าใครออกเสียงให้ตนเองได้

ขณะเดียวกัน เรื่องการทำสัญญาลักษณ์ลงไปในบัตรเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการกาในรูปแบบแปลก ๆ นอกเหนือจาก กากบาท รูป X ที่กำหนดไว้แล้ว จะนับเป็นบัตรเสียทันที เพราะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครไปเช็กชื่อผู้กาได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ผู้สมัครที่ซื้อเสียงนัดแนะให้ไปออกเสียงเป็นรูปวงกลม ตอนนับคะแนนก็จะรู้ทันทีว่าใครกาให้ตามที่ซื้อเสียงไปบ้าง

แล้วแบบนี้จะกันโกงเลือกตั้งได้อย่างไร ?

เมื่อไม่สามารถระบุชื่อผู้กา หน่วยเลือกตั้งที่มาของบัตร และเขตเลือกตั้งลงไปในบัตรได้แล้ว จะป้องกันการโกงเลือกตั้งได้อย่างไร ? ตามกระบวนการของ กรรมการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เช่น ข้าราชการครู ในช่วยเปิดหีบ บัตรเลือกตั้งทุกใบจะถูกฉีกออกจากต้นขั้วที่เป็นเล่มเพื่อนับจำนวน (นั่นคือสาเหตุที่บัตรเลือกตั้งต้องพิมพ์เป็นเล่ม ๆ และเกินมา 6-7 ล้านใบนั่นเอง) ดังนั้นหากใน 1 เล่มมี 200 ใบ แต่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในหน่วยมี 215 คน เวลาส่งบัตรเลือกตั้งก็ต้องส่งออกไป 2 เล่ม

เมื่อถึงเวลาปิดหีบ กรรมการประจำหน่วยก็จะนับจำนวนบัตรที่ถูกฉีกออกไป และเปิดหีบนับคะแนนเบื้องต้น โดยมีประชาชนเป็นผู้สังเกตุการณ์ (ปัจจุบันมีอาสาสมัครลงพื้นที่ทุกหน่วยเพื่อรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการด้วย) แล้วจึงทำการเช็กจำนวนคะแนนและบัตรเสียทั้งหมดหน้าหน่วยให้ตรงกับจำนวนบัตรที่ถูกฉีกออกไป เมื่อไม่มียอดขาดหรือเกินก็จะบันทึกคะแนนลงไป เพื่อป้องกันบัตรผีที่อาจผุดมาในระหว่างขนส่งไปยัง กกต. ส่วนกลางนั่นเอง