"บ้านหลังแรก...ฝันที่ไกลเกินเอื้อมของคน Gen Y และ Gen Z"
"บ้านหลังแรกที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของ American Dream กำลังหลุดมือคนรุ่นใหม่ เมื่อค่าบ้านทะยาน รายได้ไม่ตาม และความหวังถูกฝากไว้กับพ่อแม่"
SHORT CUT
- การเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกในสหรัฐอเมริกากลายเป็นเรื่องยากขึ้นอย่างมากสำหรับคน Gen Y และ Gen Z เนื่องจากราคาบ้านที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรายได้ที่ไม่เพิ่มขึ้นตาม ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องมีรายได้สูงมากจึงจะสามารถซื้อบ้านได้
- จำนวนผู้ซื้อบ้านครั้งแรกในสหรัฐฯ ลดลงจาก 3.2 ล้านคนในปี 2004 เหลือเพียง 1.14 ล้านคนในปี 2024 ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ สะท้อนถึงความท้าทายทางการเงินที่คนหนุ่มสาวต้องเผชิญ
- คนหนุ่มสาวจำนวนมากเลือกที่จะอยู่กับพ่อแม่ เช่าบ้านระยะยาว หรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และบางคนอาจต้องพึ่งพาการสนับสนุนทางการเงินจากครอบครัว หรือพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น การรับมรดกบ้าน หรือการแลกเปลี่ยนบ้านกับญาติผู้ใหญ่
"บ้านหลังแรกที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของ American Dream กำลังหลุดมือคนรุ่นใหม่ เมื่อค่าบ้านทะยาน รายได้ไม่ตาม และความหวังถูกฝากไว้กับพ่อแม่"
แนวคิด “American Dream” ที่ว่าใคร ๆ ก็สามารถมีบ้านหลังแรกได้ กำลังจะกลายเป็นแค่ความฝันสำหรับคนรุ่นใหม่ในอเมริกา ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ตลาดบ้านทุกวันนี้โหดร้ายกว่าที่เคย หลายคนต้องเลือกอยู่บ้านพ่อแม่ไปก่อน หรือใช้วิธีแลกบ้านกับญาติผู้ใหญ่เพื่อเริ่มต้นชีวิตเจ้าของบ้าน
ตามข้อมูลในสหรัฐฯ ตลาดบ้านยุคนี้ไม่ต่างอะไรกับสมรภูมิแข่งกันเอาตัวรอด ดอกเบี้ยบ้านยังคงลอยสูงเกือบ 7% และราคาบ้านเฉลี่ยพุ่งทะลุ $422,000 ซึ่งแปลว่าคนทั่วไปต้องมีรายได้ระดับหกหลัก (มากกว่า 3.6 ล้านบาท/ปี) ถึงจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านหลังแรกได้ จึงไม่แปลกที่คนรุ่น Gen Z และมิลเลนเนียลจะเริ่มยอมแพ้ เพราะตัวเลขผู้ซื้อบ้านครั้งแรกดิ่งจาก 3.2 ล้านคนในปี 2004 เหลือเพียง 1.14 ล้านคนในปี 2024 ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
จาก “ซื้อหรือไม่ซื้อ” แต่กลายเป็น “จะอยู่ยังไงถ้าซื้อไม่ได้”
อเล็กซานดรา กุปตา (Alexandra Gupta) นายหน้าอสังหาฯ จาก The Corcoran Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมในสหรัฐฯ เผยข้อมูลว่า คนรุ่นใหม่หลายคนหันไปเช่าระยะยาวหรือแชร์บ้านกับคนอื่นแทน เพราะ “การมีบ้านเป็นของตัวเอง” เริ่มกลายเป็นไอเดียที่ไกลเกินเอื้อม ในนิวยอร์ก ผู้ซื้อบ้านครั้งแรกที่เธอเจอส่วนใหญ่อายุประมาณ 30 ต้น ๆ ถึงกลาง ๆ มีรายได้ระดับหกหลักต่อปี และมักจะต้องอาศัยเงินสนับสนุนจากครอบครัวด้วย “ทุกวันนี้การซื้อบ้านคือเรื่องของครอบครัวทั้งครอบครัว ไม่ใช่แค่คนคนเดียว”
ส่วนกระแสในลอสแอนเจลิส มีข้อมูลเผยว่า ราคาคอนโดเฉลี่ยที่นั่นทะยานไปถึง $940,000 ถ้าจะผ่อนพร้อมดอกเบี้ย ค่าดูแลส่วนกลาง และประกันบ้าน ก็ต้องเตรียมจ่ายเดือนละกว่า $6,600 ซึ่งสูงกว่าค่าเช่ากลาง ๆ ถึง $2,200 ต่อเดือน!
แล้วคนรุ่นใหม่จะเตรียมตัวอย่างไร
คำตอบคือ วางแผนระยะยาว และอย่าหมดกำลังใจเร็วเกินไป Echo Fine Properties บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในสหรัฐฯ แนะนำว่า หากอยากมีบ้านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ควรเริ่มเก็บเงินตั้งแต่ตอนนี้ แม้จะต้องใช้วิธีลดการเที่ยว ลดการกินนอกบ้าน หรือแม้กระทั่งอยู่กับพ่อแม่ไปก่อน นอกจากนี้ ยังมีวิธีสร้าง “บ้านหลังแรก” ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อตรง ๆ เช่น การแลกบ้านกับญาติผู้ใหญ่ หรือรอรับมรดกจากบ้านของพ่อแม่ และเหนือสิ่งอื่นใดคือ “ต้องใจเย็นและมีแผน”
หากคุณรู้สึกว่าการมีบ้านเป็นของตัวเองเป็นเรื่องเกินฝันในยุคนี้ คุณไม่ได้คิดไปเอง และคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในความรู้สึกนั้น แต่บางที...ความฝันก็ยังพอมีช่องให้เดินไปถึงได้ หากเราเริ่มจากการวางแผนวันนี้
ที่มา : fortune
