จีน VS ญี่ปุ่น เริ่มตึงเครียด ลุ้นไทยรับอานิสงส์ส้มหล่น การค้า-ลงทุน-นักท่องเที่ยว

หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้มีการออกแถลงการณ์เตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงนี้ โดยระบุว่า เมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำญี่ปุ่นแสดงความเห็นที่ยั่วยุเกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนเสื่อมถอยลงอย่างมาก และสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของชาวจีนในญี่ปุ่นอย่างยิ่ง จกานั้นความตึงเครียดล่าสุดระหว่าง 2 ประเทศ เกิดขึ้นหลังจาก ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าการโจมตีทางทหารต่อไต้หวันอาจสร้างสถานการณ์เสี่ยงที่คุกคามต่อความอยู่รอดของญี่ปุ่น และอาจทำให้ญี่ปุ่นตัดสินใจใช้กำลังทหารได้ ส่วนจีนก็มีการออกมาตอบโต้หลายอย่างอยู่เหมือนกัน

เรื่องราวดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนจากญี่ปุ่น และจีน ที่ทั้งสองประเทศจะลงทุน หรือนักท่องเที่ยว ชะลอการลงทุนมายังไทย และเกาหลีใต้ หรือไม่นั้น วันนี้ #SPRiNG พามาพูดคุยกับ  'ธานี แสงรัตน์' เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า โดยหลักการแล้วจะไม่มีใครอยากเห็นประเทศใดห้ามนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันและกัน แต่ประเทศไทยก็ได้แสดงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทุกประเทศ นายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนให้มาเที่ยวประเทศไทยแล้ว และหวังว่าจะได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีน เกาหลี และญี่ปุ่น เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

นอกจากภาคการท่องเที่ยวแล้ว ประเทศไทยยังเล็งเห็นโอกาสในการดึงดูดการลงทุน เนื่องจากในภูมิภาคนี้กำลังมีการ “โยกย้ายฐานการผลิตการลงทุน” ออกจากประเทศจีน ไปสู่ประเทศต่างๆประเทศไทยจึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่นักลงทุนเกาหลีจะได้ “กระจายโอกาสและความเสี่ยง” ของการลงทุน ส่วนในปัจจุบันมีบริษัทเกาหลีที่มาลงทุนในไทยเพียง 400 บริษัทเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามที่มีมากกว่าหมื่นบริษัท ทำให้ประเทศไทยยังมีโอกาสในการลงทุนอีกมากมาย

อย่างไรก็ตามประเทศไทยกำลังส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจในหลายสาขาที่ให้ความสำคัญร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งไทยมีความเข้มแข็งและมีกำลังผลิตเป็นอันดับ 10 ของโลก โดยมีซัพพลายเชนมากที่สุดในอาเซียน ซึ่งบริษัทเกาหลี เช่น Hyundai และ Hanwha ก็เล็งเห็นโอกาสเหล่านี้

คิดว่าสถานการณ์ที่จีนและญี่ปุ่นเริ่มมีมาตรการจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวอาจ 'ทะลัก' มายังเกาหลีและไทยเพิ่มมากขึ้น

มาฟังอีกหนึ่งมุมมองจาก ‘ยุทธศักดิ์ สุภสร’ ประธานคณะกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีประสบการณ์ในการรับนักท่องเที่ยวที่ย้ายมาในช่วงที่ความขัดแย้งระหว่างประเทศอื่นๆ เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น กรณีที่ญี่ปุ่นหรือเกาหลีมีความขัดแย้ง และไทยก็พร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวจาก จีน และญี่ปุ่น เช่นกัน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดมีความขัดแย้งมากกว่านี้ นอกจากภาคการท่องเที่ยวแล้วสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าวยังเพิ่มโอกาสให้ประเทศไทยเป็น "แหล่งลงทุนที่สำคัญ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)

ประเทศไทยถือเป็น premium investment destination" และเป็น gateway ในเรื่องของอาเซียน ทั้งยังมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลไทยยืนยันว่าสนใจทุกประเทศที่จะทำให้มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าหากสามารถสร้างความมั่นใจในนโยบายที่มั่นคง และปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้พร้อม ประเทศไทยจะกลับมาอยู่ในสปอตไลต์ของโลกในเรื่องการลงทุนได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โลกมีความหวัง จีนปล่อยมลพิษลดลงต่อเนื่องนาน 18 เดือนแล้ว

• โลจิสติกส์จีนสุดล้ำติดปีกขนส่งทุเรียนไทยถึงไวใน 1 วัน

• โคอิซึมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ผู้ให้กำเนิด Visit Japan Campaign