18 ปีตากใบ ทักษิณขอโทษ ชี้ การสูญเสียเกิดจากทหาร ช่วงบิ๊กป้อมเป็น ผบ.ทบ.

พี่โทนี่ หรือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดใจกลางรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ ‘พวกเธอมานี่ “พี่โทนี่” จะรีวิวหนังสือ!!’ ถึงเหตุการณ์ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 โดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว ได้ตั้งคำถามช่วงท้ายรายการถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งทักษิณกล่าวว่า “ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย วันนั้นเมื่อ 18 ปีที่แล้วขณะเกิดเหตุ มีกลุ่มชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนวัยรุ่น เป็นช่วงรอมฎอน ถือศีลอด ผมตีกอล์ฟอยู่ที่สนามของคุณประยุทธ์ มหากิจศิริ ย่านบางนา ก็ได้รับรายงานว่ามีการล้อมโรงพักตากใบ เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ที่ถูกกล่าวหาว่านำอาวุธไปส่งให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

“วันนั้นตำรวจถามผมว่า จะทำยังไง ผมก็บอกให้ดำเนินคดีตามกฎหมายก่อน ผมพูดแค่นี้ ตอนนั้นก็มีการล้อมโรงพักอยู่นาน เจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีด มีการปะทะกัน เข้าใจว่าเสียชีวิต 6 คน หลังจากนั้นมีการสลายการชุมนุม

ข่าวที่น่าสนใจ

• ทักษิณ เย้ยบิ๊กตู่ ! ถ้าแก้ยาเสพติดไม่ไหว ยินดีช่วย เอาอยู่ภายใน 6 เดือน

• นิด้าโพล เผย อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร อันดับ 1 ประชาชนอยากให้เป็นนายกฯ ในวันนี้

• ทักษิณ ชินวัตร ซัด นโยบายกัญชาเสรี ชัยชนะหรือหายนะของประเทศ

“ผมรู้แค่ว่ามีการจับกุม แต่หลังจากนั้นผมไม่รู้จับยังไง นำไปไว้ที่ไหน ไม่มีใครรายงาน มารู้อีกทีมีการตายเกิดขึ้น ปรากฏว่าเกิดจากการลำเลียงผู้ต้องหาซึ่งอ่อนล้าจากการอดอาหาร (ถือศีลอด) แล้วแทนที่นำเขาไปไว้ในรถบรรทุกดีๆ แต่กลับนำไปซ้อนกัน มนุษย์ทั่วไปไม่น่าจะคิดได้อย่างนั้น ก็ขาดอากาศหายใจ ก็ตายบ้าง เจ็บบ้าง

“ผมมาได้รับรายงานตอนหลัง ก็เสียใจว่า ทำไมมันซื่อบื้อขนาดนี้วะ ผมเกลียดคนโง่อยู่แล้ว ผมก็ด่า จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ผมถูกเกลียดชังจากชาวมุสลิม หลังออกจากประเทศแล้ว (หลังรัฐประหารปี 2549) ปรากฏว่ามีตำรวจของมาเลเซียไปเจอผมที่เยอรมนี เป็นหน่วยราชการลับเหมือนกัน เขาก็เล่าให้ผมฟังว่า ตอนแรกมาเลเซียก็โกรธผม คนมุสลิมโกรธ นึกว่าผมทำร้ายชาวมุสลิม แต่ตอนหลังเขาพบว่าเป็นการกระทำของทหารที่จะไม่เอาผม

ทักษิณกล่าวต่อไปว่า “ตอนหลังมาทางมาเลเซียไม่ได้โกรธผม นี่คือที่เขาเล่าให้ผมฟังนะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสั่งการโดยทหาร และเอาคนเหล่านี้ไปค่ายทหารหมด ผมไม่รู้ใครสั่งการอย่างไร รู้ถึงแค่ตการสลายการชุมนุมที่หน้าโรงพักตากใบ หลังจากนั้นทหารรับช่วงไป

“ถึงแม้ผมไม่ได้สั่งการ แต่ในฐานะที่ตอนนั้นผมเป็นนายกฯ ผมต้องขอโทษขออภัยญาติพี่น้องที่สูญเสียและผู้ได้รับความเสียหายขณะนั้นด้วย ตอนนั้นเสียชีวิตประมาณ 80 คน ถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่าแรงของการลำเลียงผู้ต้องหา วัวหายล้อมคอก ตอนหลังก็ซื้อรถมีประตูปิดข้างหลังป้องกันผู้ต้องหาหลบหนี”

และเมื่อถามถึงกรณีที่ขบวนการบีอาร์เอ็นเรียกร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ให้ดำเนินคดีกับทักษิณ ในฐานะนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะ ผบ.ทบ. ในเวลานั้น ฯลฯ ในความผิดข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทักษิณกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า "ล้างเผ่าพันธุ์ไม่มีใครคิดบ้าขนาดนั้น ซึ่งการรักษาความสงบของบ้านเมืองมันต้องมี แต่ว่าความผิดพลาดคือการลำเลียงผู้ต้องหาไปค่ายทหารโดยวิธีการที่ผิดหลักทุกอย่าง ใช้ไม่ได้ ตรงนี้นอกเหนือควบคุม คนเป็นนายกฯ ไม่สามารถกำหนดวิธีการการเดินได้ นายกฯ แค่ให้หลักการกว้างๆ วันนั้นเราแค่ไม่อนุญาตให้บุกยึดผู้ต้องหากลางโรงพัก ซึ่งเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ผมคิดว่าบีอาร์เอ็นก็พูดเอาโก้ เอาหล่อ ผมไปพบพวกนี้หลายคนที่มาเลเซีย ผมไปมาหมดแล้ว ผมไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว"

ส่วนกรณีจะมีการชดใช้ หรือคืนความยุติธรรมให้กับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นอย่างไร ทักษิณกล่าวว่า "ต้องถาม พล.อ.ประวิตร ในฐานะที่เป็น ผบ.ทบ. ตอนนั้น จะรู้เรื่องทหารดี จะชดเชยยังไง เพราะรัฐบาลนี้กู้เงินมาเยอะนี่ จะชดเชยอย่างไรก็ว่าไป เพราะผมไม่มีหน้าที่อะไรแล้ว

“ตอนเกิดความเสียหายอยู่ในมือทหาร คนที่มาพูดกับผมที่เยอรมนี เขารู้ว่าทหารพร้อมจะล้มผมตั้งแต่วันนั้น (เหตุการณ์ตากใบ เกิดขึ้นปี 2547) และมีกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมา (เริ่มก่อตัวกลางปี 2548) อะไรตามมาเป็นชุด นี่คือทางสันติบาลมาเลเซียมาเจอผมโดยบังเอิญที่เยอรมนี เขาไปบ้านของคนที่เป็นสายลับเยอรมนี เขาเลยเล่าให้ฟัง เขาสืบทราบว่าทหารพร้อมจะล้มผมตั้งแต่วันนั้นแล้ว” ทักษิณ กล่าว 

ที่มา รายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ ‘พวกเธอมานี่ “พี่โทนี่” จะรีวิวหนังสือ!!’