ตาลีบันสั่งห้ามผู้หญิงทำงาน NGO เพราะไม่สวมฮิญาบ ?
กลุ่มตาลีบันออกกฎใหม่ให้หญิงชาวอัฟกานิสถาน ห้ามผู้หญิงทำงานให้กับองค์กร NGO เพราะผู้หญิงเหล่านี้ไม่ทำตามกฎหมายชารีอะห์ คือ ไม่สวมฮิญาบตามข้อกำหนด
“ถ้าฉันไม่สามารถไปทำงานได้ ใครเล่าจะเลี้ยงดูครอบครัวฉันได้” หญิงชาวอัฟกานิสถานผู้ทำอาชีพ NGO และเป็นเสาหลักของบ้านกล่าว
เป็นอีกคำสั่งหนึ่งที่ยังคงดูริดรอนสิทธิผู้หญิงเหมือนเดิม หลังเมื่อไม่นานมานี้สำนักข่าว บีบีซีได้รายงานว่า กลุ่มตาลีบันออกคำสั่งใหม่ ห้ามผู้หญิงทำงานให้กับองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) โดยให้เหตุผลว่า เพราะเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนหญิงละเมิดระเบียบการแต่งกายด้วยการไม่สวมฮิญาบ
แน่นอนว่าคำสั่งนี้ได้รับการประนามจากสหประชาชาติทันที พร้อมกล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน อีกทั้งคำสั่งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นักศึกษาหญิงถูกสั่งห้ามเข้ามหาวิทยาลัย
ข่าวนี้ได้สร้างความหวั่นใจ ความกลัวและความสิ้นหวังให้กับหญิงชาวอัฟกานิสถานไม่น้อย จนรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกายังต้องออกวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวดังกล่าวด้วยว่า เป็นการทำลายล้างชาวอัฟกานิสถานอย่างแท้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
สหรัฐฯ ปลิดชีพ ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ ด้วยการลอบโจมตีทางอากาศ
-
ไม่เหมือนที่สัญญา ตาลีบัน ปิด ร.ร. หญิงล้วน นร เศร้าอนาคตการศึกษาสตรีริบหรี่
-
Flee ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สะท้อนภาพการค้ามนุษย์ เข้าชิง 3 สาขาออสการ์
"ถ้าฉันไม่สามารถไปทำงานได้ แล้วใครเล่าจะเลี้ยงดูครอบครัวของฉันได้" หญิงรายหนึ่งที่ทำงานเป็น NGO กล่าว และเธอก็ยืนยันว่าที่ผ่านมาเธอปฏิบัติตามระเบียบการแต่งกายที่เข้มงวดของกลุ่มตาลีบันเสมอมา และกฎนี้ก็ทำให้พวกเธอกังวลไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อเธอกำลังเป็นเสาหลักของบ้านและรายได้หลักมาจากการทำงาน NGO
คำสั่งนี้ได้ถูกส่งมาเป็นจดหมายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากกระทรวงเศรษฐกิจถึงองค์กรพัฒนาเอกชนทั้งในและต่างประเทศ จดหมายได้ขู่ว่าจะยกเลิกใบอนุญาตขององค์กรใด ๆ ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวทันที พร้อมให้คำอธิบายไว้ว่า ผู้หญิงกำลังฝ่าฝืนกฎหมายชารีอะฮ์ด้วยการไม่สวมฮิญาบ
หน่วยงานของสหประชาชาติมีบทบาทสำคัญในประเทศโดยดำเนินงานด้านการบรรเทาทุกข์และการพัฒนา มีการวางแผนการประชุมเร่งด่วนของทีมประเทศด้านมนุษยธรรมในวันอาทิตย์เพื่อตอบสนองต่อข่าวดังกล่าว
พนักงานของ Save the Children กล่าวว่า องค์กรกำลังวางแผนที่จะขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ของตาลีบัน เพราะหากผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานนี้ แน่นอนว่า NGO บางแห่งจะต้องปิดตัวลงอย่างแน่นอน และเป็นที่หวั่นเกรงว่าผู้หญิงอัฟกานิสถานอาจถูกปล่อยให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือโดยตรง หากองค์กรต่างๆ ได้รับอนุญาตให้จ้างงานเฉพาะผู้ชายเท่านั้น กฎของตาลีบันห้ามผู้ชายทำงานกับผู้หญิง
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาเอเชียใต้ อธิบายว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวเป็น "ความพยายามที่น่าสลดใจอีกครั้งในการลบผู้หญิงออกจากพื้นที่ทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ" ของอัฟกานิสถาน
การห้ามสตรีเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอัฟกานิสถานเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองเดียวกัน มันจุดชนวนการประท้วง ซึ่งรวมถึงในเมืองเฮรัตเมื่อวันเสาร์ ซึ่งถูกปราบปรามอย่างรวดเร็วโดยกลุ่มตอลิบาน
นับตั้งแต่ยึดอำนาจการปกครองกลับคืนมาเมื่อปีที่แล้ว กลุ่มดังกล่าวได้จำกัดสิทธิสตรีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสัญญาว่าการปกครองจะนุ่มนวลกว่าระบอบการปกครองที่เคยมีมาในทศวรรษ 1990
เช่นเดียวกับการห้ามนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันถูกบังคับใช้โดยทหารติดอาวุธ โรงเรียนมัธยมสำหรับเด็กผู้หญิงยังคงปิดในจังหวัดส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ผู้หญิงยังถูกห้ามเข้าสวนสาธารณะและโรงยิม รวมถึงสถานที่สาธารณะอื่น ๆ ด้วย
ที่มาข้อมูล
