"บีโอไอ" ยิ้มต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการลงทุน คาดเงินสะพัด 6 แสนล้าน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563 - 2565) ได้มีบรรษัทข้ามชาติใหญ่ระดับโลกเลือกใช้ไทยเป็นฐานลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 2,687 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีพอใจกับการเติบโตของการลงทุนที่เกิดขึ้น และถือเป็นผลสะท้อนที่เป็นรูปธรรมแสดงให้เห็นว่าต่างชาติเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล พื้นฐาน ศักยภาพของประเทศ ไทยและคนไทย

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• บิ๊กตู่ ถก"บีโอไอ" อัดแพ็กเกจ จีบลงทุนอุปกรณ์การแพทย์เร่งด่วน สู้ "โควิด"
• "บีโอไอ" จ่อต่ออายุมาตรการส่งเสริมลงทุน "อีอีซี"
• เสนอพาณิชย์-บีโอไอ เปิดเสรีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแข่งจีน

โดยยกให้ความสำเร็จนี้เป็นผลงานทีมประเทศไทยของทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น ทีมปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ บีโอไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างหนักท่ามกลางการแข่งขันกับประเทศต่างๆ ที่เร่งดึงดูดนักลงทุนเช่นกัน

แต่ทีมประเทศไทยก็สามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักลงทุนทั่วโลกเลือกเป็นฐานการผลิตได้

ทั้งนี้ การขอรับส่งเสริมการลงทุนของบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่

1. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนรวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้า 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 78,115 ล้านบาท
2. อุตสาหกรรมดิจิทัล 420 โครงการ มูลค่า 64,481 ล้านบาท
3. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 92 โครงการ มูลค่า 113,990 ล้านบาท
4. อุตสาหกรรม BCG 1,911 โครงการ มูลค่า 305,170 ล้านบาท
5. อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 218 โครงการ มูลค่า 53,104 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในเดือน มี.ค.นี้ บีโอไอจะเสนอโครงการลงทุนขนาดใหญ่อีกหลายโครงการให้บอร์ดบีโอไออนุมัติ การที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยต่อเนื่อง ทำให้นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่ารัฐบาลได้กำหนดนโยบายมาถูกทางและได้การวางรากฐานให้อุตสาหกรรมใหม่ของประเทศให้เข้มแข็งต่อไปในอนาคต