svasdssvasds

“วราวุธ” แนะคนวิจารณ์ "ซอฟต์พาวเวอร์" รอดูผลงาน "ช่อ" ติงจัดสงกรานต์ 30 วัน

“วราวุธ” แนะคนวิจารณ์ "ซอฟต์พาวเวอร์" รอดูผลงาน "ช่อ" ติงจัดสงกรานต์ 30 วัน

“วราวุธ” ขอคนติซอฟต์พาวเวอร์ ให้รอดูผลงาน เชื่อไทยมีดี ดึงดูด 8,000 ล้านคนทั่วโลก ด้านเพื่อไทย เปิดโปรแกรมซอฟต์พาวเวอร์สงกรานต์ ทยอยจัดงานทั่วไทย ฝั่ง "ช่อ" ติงไอเดียจัดสงกรานต์ 30 วัน ทำได้ แต่ควรเน้นสร้างจุดท่องเที่ยวใหม่ ห่วงทุ่มงบละลายแม่น้ำ

วันที่ 3 ธ.ค. เวลา 10.40 น.ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชั่วคราว บริเวณโรงเรียนบ้านหนองกรุงศรีโพธิ์ศรีสมพร ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณสำหรับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ว่า พม.ยังไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม กลับการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์เท่าที่ควร จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้มากนัก แต่เชื่อว่าคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ มีบุคลากรที่มีคุณภาพหลายฝ่าย คงช่วยกันดูและแนะนำว่าควรจะดำเนินการไปในทิศทางใด

“วราวุธ” แนะคนวิจารณ์ "ซอฟต์พาวเวอร์" รอดูผลงาน

ประเทศไทยของเรามีเรื่องดีๆ หลายอย่าง ที่สามารถดึงดูดและโน้มน้าวจิตใจ คนประมาณ 8,000 ล้านคนทั่วโลก สร้างเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็งได้ ตอนนี้อาจมีคนให้ความคิดเห็นต่างๆ นานา รวมถึงคำติ แต่ขอให้รอชมผลงานก่อน ซึ่งผลงานจะเป็นตัวลบคำครหา และซัพพอร์ตสิ่งที่ได้ดำเนินการมา

“วราวุธ” แนะคนวิจารณ์ "ซอฟต์พาวเวอร์" รอดูผลงาน

ด้านคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล ในคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้เตรียมการผลักดันงานสงกรานต์ไทยไปไกลระดับโลก ‘World Water Festival - The Songkran Phenomenon’ ซึ่งจะเป็นการยกระดับงานสงกรานต์ไทยให้ยิ่งใหญ่ โดยจะส่งเสริมให้มีการทยอยจัดงานสงกรานต์ ตลอดเดือนเมษายน 2567 ในจังหวัดต่างๆ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างประเทศมากกว่า 35 ล้านคน เพื่อสร้างรายได้ 40,000 ล้านบาทกระจายสู่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล ได้นำเสนอแผนในการเตรียมการจัดงานมหกรรมเทศกาล World Water Festival-The Songkran Phenomenon ให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่แห่งปี ที่จะมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายโดยให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลาง เช่น งาน Soft Power Avenue ที่แสดงการรวมพลังของอีก 11 อุตสาหกรรมภายใต้ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติพร้อมกัน และจะมีการจัดขบวนแห่รวบรวมของดี Parade Mardi Gras แต่ละจังหวัด 77 จังหวัด จะมีการจัดกิจกรรมตลาดไทยย้อนยุค การแสดงบนเวที การแสดงดนตรีไทย กิจกรรมลีลาศ กิจกรรม Bangkok Art Market ตลอดจนกิจกรรมของดีทั่วไทย กิจกรรมสายมู และมหกรรมการแสดงดนตรีระดับโลก ยิ่งไปกว่านั้นคาดว่าจะมีการฉลองงาน World Water Festival-The Songkran Phenomenon ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ

ทางฝั่งของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้โพสต์ความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ฯ บนเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งระบุว่า

“แผนงานใหญ่ปีหน้า วันสงกรานต์จะไม่ใช่แค่เทศกาลแบบในอดีตที่ผ่านมา แต่เราจะจัดงานใหญ่ มหาสงกรานต์ World Water Festival-The Songkran Phenomenon ซึ่งจะไม่เล่นแค่ 3 วัน แต่จะจัดงานสงกรานต์เฟสติวัลทั้งเดือน ทยอยจัดทั้งประเทศ 77 จังหวัด”

ส่งผลให้ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องที่เกิดจากการพาดหัวจัดสงกรานต์ 30 วัน ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไป แต่เมื่อไปดูในรายละเอียด สิ่งที่ตนกังวลใจ ไม่ใช่เรื่องสงกรานต์ 30 วัน แน่นอน จัดเฟสติวัลทั้งเดือน แต่สลับสถานที่ หรือจัดโซนนิ่ง ก็สามารถจัดการได้ สิ่งที่เราอยากตั้งคำถามจริงๆ เกี่ยวกับงานเฟสติวัล คือ

  1. อย่าลืมว่างบประมาณ 5,164 ล้านบาท ที่ถูกเปิดออกมาล่าสุด มีถึง 1,009 ล้านบาท ในส่วนของเฟสติวัล ทั้งที่มีถึง 11 กลุ่มอุตสาหกรรม การที่กลุ่มอุตสาหกรรมเฟสติวัลได้มากที่สุด ทำให้เกิดคำถามที่ว่า สุดท้ายจะลงเอยด้วยการจัดอีเวนท์แล้วก็จบหรือไม่ ที่ผ่านมาก็ไม่ใช่ว่าประเทศไทยจะว่างเว้นจากอีเวนต์ แต่จะมีอะไรที่แตกต่างออกไป ในเมื่อเราทุ่มเงินจัดอีเวนต์ระดับพันล้านบาท ไม่นับอีเวนต์ที่มีอยู่แล้วของกระทรวงต่างๆ
  2. การจัดสงกรานต์เป็นเฟสติวัลยาวหนึ่งเดือน และหมุนเวียนกันไปในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ข้อสังเกตจากกรณีที่นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จะเน้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คำถามคือ ถ้านโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของพรรคเพื่อไทย จะเป็นไปอย่างที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ ซึ่งคือการสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศ การไปหาสถานที่ใหม่ สร้างจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในเทศกาลสงกรานต์ ที่ไม่ว่าอย่างไรคนก็มาท่องเที่ยวอยู่แล้ว อาจจะดีกว่าหรือไม่ คงเป็นความเห็นที่แตกต่างในเชิงนโยบาย

น.ส.พรรณิการ์ ยังกล่าวถึงนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (One Family One Soft Power : OFOS) ที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะสร้างรายได้ให้ครอบครัว ครอบครัวละ 200,000 บาท จำนวน 20 ล้านครอบครัวต่อปี ว่า ถ้าต้องการผลที่ใหญ่ขนาดนั้น ตัวเลขการลงทุนเบื้องต้นในปี 67 อาจยังไม่สามารถคาดหวังได้มากขนาดนั้น

“อย่าลืมว่า งบประมาณปี 68 แทบจะต้องพิจารณาต่อกันเลย เนื่องจากงบประมาณปี 67 ล่าช้า ปี 67 อาจจะพูดได้ว่าเป็นปีแรกของรัฐบาล อาจจะยังเตรียมการไม่ทัน แต่ปี 68 จะเริ่มพิจารณากลางปีหน้าแล้ว ต้องรอดูว่า จะซ้ำรอยในการจัดงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ที่ยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยกัน 2 ปี ซึ่งคือครึ่งหนึ่งของการทำงานของรัฐบาลนี้หรือไม่” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เท่าที่เห็นรายละเอียดของกระทรวงวัฒนธรรมในขณะนี้ จะเป็นไปในลักษณะของการจัดอีเวนต์ การอบรม และการสัมมนา มากกว่า ส่วนตัวหากมองนโยบายของพรรคเพื่อไทย สิ่งที่สำคัญจริงๆ อยู่ที่ OFOS การสร้างเสริมทักษะในด้านสร้างสรรค์ให้กับคนในแต่ละครอบครัว นี่คือการรีสกิล อัพสกิล ที่จำเป็นต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก ยกตัวอย่าง มีหนึ่งโครงการจากกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งใช้งบประมาณ 160 กว่าล้านบาทเท่านั้นเอง และมีอีเวนต์อยู่ในนั้นแล้วด้วย เพราะฉะนั้น ไม่แน่ใจว่า OFOS จะถูกขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมมากน้อยเพียงใด ในปีงบประมาณ 67 นี้

เมื่อถามว่า ไม่กังวลเรื่องการทุจริต หรือการฉวยโอกาสจากกลุ่มบุคคลใดใช่หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า การทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการใด ก็สามารถทุกจริตได้ทั้งนั้น แต่ที่เรากลัวซอฟต์พาวเวอร์ เนื่องจากยังไม่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และใช้เงินไปกับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม สุดท้ายจะได้แบบคนละนิดละหน่อย แล้วทำให้ยังไม่ทันเห็นผลชัดเจนในปีแรกที่ทำงาน รวมถึงเท่าที่ในรายละเอียด งบประมาณก้อนนี้ จะถูกใช้ไปในอีเวนต์ อบรม สัมมนา ซึ่งเป็นงบประมาณตัวที่เขียน และใช้ง่ายที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related