svasdssvasds

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่อ่านเข้าใจง่าย และได้เห็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ทั้งในมุมธุรกิจ การใช้ชีวิต สังคมโลกที่จะเปลี่ยนไปเพื่อรองรับการใช้ชีวิตใน เมตาเวิร์ส (Metaverse) หรือ โลกเสมือน ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 10 ปี

สองปีที่เราอยู่ร่วมกับ COVID-19 เชื่อแน่ว่า คนส่วนใหญ่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาติดตั้งในโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ใช้งานแอปต่างๆ บ่อยขึ้น บ่งบอกว่า เทคโนโลยีที่พัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกให้เราได้จริง สร้างความเปลี่ยนแปลงเป็นวงกว้าง ทั้งระดับประเทศและระดับโลก แล้วกระแส Metaverse ที่จะมัดรวมหลากหลายเทคโนโลยีไปอยู่ในพื้นที่เสมือน จะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปอีกแค่ไหน?

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

Jon Radoff นักออกแบบเกมและผู้ประกอบการ เขียนบนแพลตฟอร์ม medium เรื่อง 9 เมกะเทรนด์ที่จะมาแน่และเป็นภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการพัฒนา Metaverse (9 Megatrends Shaping the Metaverse) ดังนี้ 

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 1. Virtual Mainstreaming

โลกเสมือนจริงจะกลายเป็นกระแสหลักที่ผู้คนลงทุนให้ตัวตนในโลก Metaverse มากขึ้น สินค้าเสมือนจริงและเงินดิจิทัลก็จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจน ความไว้ใจ เชื่อใจ ความสัมพันธ์ ที่เกิดขึ้นในโลกทางกายภาพก็จะเพิ่มขึ้นในโลก Metaverse

อย่างไรก็ตาม ยิ่งเราให้ความสำคัญกับโลกเสมือน ภัยไซเบอร์ ก็จะยิ่งตามมา อาทิ การหลอกขอข้อมูล ขโมยแอคเคานต์ การเรียกค่าไถ่จากข้อมูลสำคัญ การ ปล่อยมัลแวร์/ไวรัสทำลายระบบฐานข้อมูล ไซเบอร์บูลลี่ ฯลฯ

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 2. Challenges by Open Platforms

แพลตฟอร์มต้องเผชิญความท้าทายจากการใช้ระบบเปิด เนื่องจากแนวโน้มการกระจายข้อมูลจากศูนย์กลาง (decentralized) ที่เพิ่มมากขึ้น แพลตฟอร์มต่างๆ ก็ต้องพัฒนาให้สามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ด้วย เช่น แอปพลิเคชัน Slack ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับแอปอื่นๆ ได้

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 3. Walled Garden Ecosystems

ระบบนิเวศของแอปพลิเคชันแบบปิดจะเกิดขึ้นอีกมาก (เปรียบเทียบกับสวนแบบปิดที่มีกำแพงล้อมรอบ) เช่น แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ Roblox หากจะเล่นต้องเข้าไปเล่นผ่านแอปหรือแพลตฟอร์มในระบบนิเวศของ Roblox เท่านั้น

.......................................................

บทความน่ารู้เกี่ยวกับ Metaverse ที่คุณอาจสนใจ

.......................................................

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 4. Machine Intelligence

เครื่องจักรจะเข้ามาทำแทนสิ่งที่มนุษย์เคยทำ ความฉลาดของเครื่องจักรจะทำให้ AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มีบทบาทในการเป็นผู้ช่วย เป็นตัวแทน และยังร่วมผลิตงานที่สร้างสรรค์ยิ่งขึ้น 

ด้านการออกแบบ AI จะเหลือเพียงไมโครชิปที่สามารถรองรับการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ใน Metaverse ส่วนการประมวลผลจะทำได้เร็วขึ้น แปลลักษณะท่าทาง คาดการณ์การมองเห็น รับรู้อารมณ์ ไปจนถึงตรวจจับความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ประสาทได้อีกด้วย

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 5. Rise of Cybernetics

การเชื่อมประสาทสัมผัสของมนุษย์และระบบมอเตอร์ เข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า Cybernetics ทำให้ผู้คนได้ใช้อุปกรณ์อัจฉริยะสารพัดรูปแบบ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้เล่นเกม อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ VR Headsets 

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจะทำให้อุปกรณ์เหล่านี้มีขนาดเล็กลง แม้รูปลักษณ์จะเป็นเพียงอุปกรณ์พกพา แต่การถ่ายโอนข้อมูลจะทำได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้นในระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เช่น แว่นตาอัจฉริยะ อาจเปลี่ยนเป็น คอนแท็กเลนส์อัจฉริยะ ที่มีฟังก์ชันแบบเดียวกับแว่นตาอัจฉริยะก็เป็นได้

อุปกรณ์สวมใส่ที่ผนวกรวมกับเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้พกพาได้ง่าย จะไม่ได้เปลี่ยนแค่โลกของผู้ใช้เทคโนโลยี แต่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทั้งด้านการอยู่อาศัย การเดินทาง สถานที่ทำงาน การพบปะผู้คน การสั่งอาหาร ไปจนถึงการทำโพรเจกต์ใดๆ

ด้วยสิ่งเหล่านี้ เราจะไม่ได้เข้าไปอยู่ใน Metaverse แต่ Metaverse จะอยู่รอบตัวเราในอนาคต

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 6. Low-Code Platforms

บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่จะใช้ Low-code and no-code application platforms (LCAP) แพลตฟอร์มที่เขียนโค้ดน้อยหรือไม่ต้องใช้โค้ดเลย (สร้างง่าย เช่น drag & drop ข้อมูลบนเว็บก็ยังได้) เพิ่มขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม No-code หรือ Low-code ด้วยระบบการทำงานอัตโนมัติที่ไวขึ้นของ LCAP การสร้างคอนเทนต์ใน Metaverse อินทิเกรตหรือขยายฐานข้อมูล จึงทำได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น  การใช้สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์แบบเดิมจะเปลี่ยนไปเป็นสถาปัตยกรรมแบบไร้เซิฟเวอร์

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 7. Simulating Reality

พื้นที่ต่างๆ ในโลกเสมือนจะถูกกระตุ้นและพัฒนาให้มีความสมจริงยิ่งขึ้น ภาพกราฟิก 3D จะเข้ามามีบทบาทมากในการจำลองลักษณะทางกายภาพเข้าไปอยู่ในโลกเสมือน เช่น แพลตฟอร์ม Omniverse ของ NVIDIA ที่นำมาจำลองทิศทางการไหลของของเหลว ซึ่งสามารถนำไปใช้คาดการณ์ทิศทางการไหลของน้ำในแม่น้ำได้ 

Simulating Reality ยังสามารถเก็บ Data จากผู้คนและขั้นตอนหรือกระบวนการต่างๆ แบบเรียลไทม์ได้ด้วย แต่การจำลองภาพจากสถานที่จริงเข้าไปในโลกเสมือนจริง ต้องผ่านการป้อนข้อมูลทางกายภาพ ทั้งข้อมูลภูมิสารสนเทศ (Geospatial Data) ข้อมูลการจราจร เข้าไปในระบบจำนวนมาก รวมถึงการใช้เทคโนโลยี Digital Twin เก็บข้อมูลวัตถุทางกายภาพร่วมด้วย เพื่อทำให้เกิดชั้นข้อมูล (layers) ทั้งแบบกายภาพและดิจิทัลที่อินทิเกรตและวิเคราะห์คาดการณ์ได้ ผลก็คือ การเล่นเกมหรือทำกิจกรรมต่างๆ ใน Metaverse มีความสมจริงยิ่งขึ้น และยังให้ประสบการณ์แปลกใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานได้

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 8. Accelerating Distributed Networks

5G, 6G จะได้รับการพัฒนาและกระจายเครือข่ายออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนความเร็วอินเทอร์เน็ต ความสามารถในการรองรับการใช้ Data พร้อมกันในปริมาณมากๆ และความหน่วงต่ำ จะได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

9 เมกะเทรนด์ เนื้อๆ เน้นๆ ที่เราจะได้เห็นจากการพัฒนา Metaverse

  • 9. Blockchain Adoption

การเก็บข้อมูลหรือสินทรัพย์แบบกระจายศูนย์ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน มีความโปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ ผู้คนจึงไม่ไว้ใจใคร แต่ไว้ใจบล็อกเชน เพราะไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อมูลที่บันทึกไว้ในบล็อกที่ต่อกันเป็นเครือข่ายได้ เช่น Ethereum แพลตฟอร์มที่พัฒนาบนบล็อกเชนและเป็นเชนหลักที่ใช้ทำ สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) 

ประเด็นความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี จะส่งผลให้มีการทำสัญญาอัจฉริยะเพิ่มขึ้นอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประกัน ห่วงโซ่อุปทาน สินทรัพย์ เช่น  NFT นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ การกู้ยืมแบบกระจายศูนย์ก็จะเพิ่มสูงขึ้น 

ที่มา : Building the Metaverse, Jon Radoff

related