นักพากย์เสียงชาวไอร์แลนด์ ผู้ให้เสียงไมโครซอฟท์ Bing ต้องหวั่นใจ เมื่อพบเว็บไซต์แปลงข้อความเป็นคำพูด โดยใช้เสียงของเธอเป็นผู้สั่งการ จนคนรอบตัวสงสัยและมาสอบถามถึงรายได้เสริม ซึ่งนั่นไม่ใช่ตัวเธอ!
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยให้การเลียนเสียงของผู้อื่นง่ายขึ้น และทำให้การโคลนเสียงหรือปรับโทนเสียงของหุ่นยนต์ให้เหมือนเสียงของมนุษย์ได้สมจริงมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีการใช้เอไอหลอกลวงผ่านเสียงเพิ่มมากขึ้น โดยอาชญากรใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเอไอต่าง ๆ เพื่อหลอกล่อเหยื่อให้โอนเงิน หรืออนุมัติการโอนเงินแก่มิจฉาชีพ
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
กรณีของ "เรมี มิเชลล์ คลาร์ก” ผู้ให้เสียงไมโครซอฟท์ Bing ในไอร์แลนด์ พบว่า มีเว็บไซต์แปลงข้อความเป็นคำพูดที่ใช้เสียงของเธอ แทนเสียงผู้หญิงชาวไอริชทั่วไปอยู่จำนวน 2 เว็บไซต์ หลังจากมีเพื่อนเก่าของเธอสอบถามถึงงานพากย์เสียงต่าง ๆ ได้รับค่าตอบแทนที่ดีหรือไม่
โดยทาง ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ดังกล่าว สามารถจ่ายเงินเพื่อให้เสียงของคลาร์กพูดอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ เช่น นำเสียงของเธอไปใช้เพื่อการโฆษณา, ฝึกอบรม, เสียงประกอบเพื่อใช้ในยูทูป หรือใช้เป็นเสียงข้อความในโทรศัพท์ เป็นต้น
ซึ่งเธอรู้สึกช็อกมาก ที่มีบริษัทขายเสียงรูปแบบนี้ เรียกว่าเป็นโครงสร้างธุรกิจที่เธอไม่สามารถรู้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้ เธอไม่รู้ว่าเว็บไซต์สามารถขายเสียงของเธอได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งมีความกังวลว่า สัญญาที่เธอลงนามกับไมโครซอฟท์เมื่อหลายปีก่อน อาจเป็นสาเหตุให้ใครๆ ก็สามารถได้ยินเสียงตนเองในเว็บไซต์ได้
ซึ่งคลาร์ก กังวลว่า เสียงของเธอที่สร้างด้วยเอไอ อาจส่งผลต่ออาชีพการงานของเธอให้เสียหาย รวมทั้งมิจฉาชีพที่นำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ไม่ดี
ทางด้านของ “ไมค์ คูเปอร์” นักพากย์ชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เอง ก็พบเสียงตนเองในเว็บไซต์สร้างเสียงด้วยเอไอ 2 เว็บไซต์เช่นกัน ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวอ้างว่า พวกเขามีสิทธิ์ใช้เสียงของคูเปอร์ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้ทั้งสองฝ่ายจะไม่เคยพูดคุยกับทางเว็บไซต์เลย
คูเปอร์ เผยว่า ปัจจุบันบริษัทจำนวนมากมีสิทธิ์ใช้เสียงของนักพากย์ในระบบเอไอมากขึ้น ในฐานะพันธมิตรด้านข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยี
รีวอยเซอร์ เว็บไซต์ขายเสียงพร้อมคลิปวิดีโอ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่มาของเสียงคลาร์กได้ แต่กระบวนการนำเสียงของคลาร์ก มาใช้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนบริษัทอื่นอย่าง ซาวด์ลี ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ