เริ่มแล้ว! นิวยอร์กแบนการพกปืนในที่สาธารณะหลายแห่ง รวมถึงไทม์สแควร์ด้วย
นิวยอร์กผ่านกฎหมาย ห้ามพกปืนในที่สาธารณะหลายแห่ง และเริ่มบังคับใช้ได้เลย ผู้ถือครองปืนและมีใบอนุญาตต้องเข้ารับการตรวจสอบการยิงและห้ามพกปืนในสถานที่อ่อนไหวหลายแห่ง
กลายเป็นที่ฮือฮาและแบ่งออกเป็นหลายเสียงเลยทีเดียว หลังจากนิวยอร์กประกาศแบนการใช้ปืนในที่สาธารณะเมื่อวันศุกร์ 1 ก.ค ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐนิวยอร์กผ่านกฎหมายห้ามพกปืนในที่สาธารณะหลายแห่ง รวมทั้งไทม์สแควร์ด้วย และกำหนดให้ผู้ที่ถือครองใบอนุญาตใช้ปืน ต้องพิสูจน์ความสามารถในการยิงและต้องส่งบัญชีโซเชียลมีเดียเพื่อรับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ในนิวยอร์กประณามคำตัดสินของศาล โดยกล่าวว่าความรุนแรงของปืนจะมีมากขึ้นหากมีคนถือปืนมากขึ้น พวกเขายอมรับว่าต้องคลายแผนการอนุญาตที่มีอายุนับร้อยปีของรัฐเพื่อให้สอดคล้องกับคำตัดสิน แต่ก็ต้องพยายามรักษาข้อจำกัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในนามของความปลอดภัยสาธารณะ บางส่วนอาจเป็นเป้าหมายสำหรับความท้าทายทางกฎหมายเพิ่มเติม
นอกจากนี้ศาลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ระบอบใบอนุญาตซึ่งมีขึ้นตั้งแต่ปี 1911 ได้ให้ดุลยพินิจมากเกินไปแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิเสธใบอนุญาตของบุคคลทั่วไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
ญี่ปุ่นผ่อนคลายสวมหน้ากากอนามัย แต่คนญี่ปุ่นเคร่งไม่ยกเลิกสวมหน้ากาก
-
ตำรวจเร่งสืบสวน การตายปริศนาวัยรุ่น 22 ศพในไนต์คลับแอฟริกาใต้
-
อิตาลีเจอภัยแล้งรุนแรงที่สุดรอบ 70 ปี : ปัญหา Climate Change ทำพิษ
-
นโยบายไบเดน เตรียมเสนอแผน ลดสารนิโคตินในบุหรี่ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
Kathy Hochul ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่สั่งการประชุมพิเศษในสภานิติบัญญัติ กล่าวว่า ข้อบังคับการออกใบอนุญาตปืนของรัฐ (ฉบับเดิม) ส่งผลให้นิวยอร์กมีอัตราการเสียชีวิตด้วยปืนต่ำที่สุดเป็นอันดับห้าใน 50 รัฐของสหรัฐฯ แม้จะไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินของศาลฎีกา แต่เธอก็ยืนยันว่า เธอจะปกป้องชาวนิวยอร์กให้ปลอดภัยจากอันตรายต่อไป
อย่างไรก็ตาม คำตัดสินของศาลได้เน้นย้ำถึงการอธิบายข้อกฎหมายให้ละเอียด เพื่อลดการสร้างความเข้าใจผิด เพราะกฎหมายดังกล่าว เน้นย้ำคำว่า ‘สถานที่อ่อนไหว’ บางแห่ง ซึ่งศาลได้เตือนให้ผู้ร่างกฎหมายอย่าใช้คำอธิบายที่กว้างเกินไปให้เน้นเป็นสถานที่ไปเลย
ซึ่งสถานที่อ่อนไหวที่ห้ามพกอาวุธปืนในนิวยอร์ก มีดังต่อไปนี้ อาคารราชการ, สถานพยาบาล, สถานที่ทางศาสนา, ห้องสมุด, สนามเด็กเล่น, สวนสาธารณะ, สวนสัตว์, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, ค่ายฤดูร้อน, ศูนย์ช่วยเหลือผู้เสพติด, ศูนย์ช่วยเหลือที่พักพิงคนไร้บ้าน, ขนส่งสาธารณะ สถานที่ที่มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์หรือกัญชา, พิพิธภัณฑ์, โรงละคร, สนามกีฬา, สถานที่เลือกตั้ง, ไทม์สแควร์ และรวมไปถึงสถานีรถไฟใต้ดินในนครนิวยอร์กด้วย
หากฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว จะถูกตีเป็นอาชญากรรมทางอาญาทันที ส่วนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ลงทะเบียนเท่านั้นจะเป็นกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นจากข้อจำกัดเหล่านี้
ด้านฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันโหวตไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว โดยบ่นว่าทำให้สิทธิในการพกพาอาวุธน้อยกว่าสิทธิตามรัฐธรรมนูญอื่นๆ เช่น เสรีภาพในการพูดและการนับถือศาสนา ไมค์ ลอว์เลอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า "ตอนนี้ มันจะง่ายขึ้นหากได้รับใบอนุญาตพกพาแบบปกปิด แต่คุณจะแบกมันไปไหนไม่ได้”
อีกด้านหนึ่ง สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ เป็นกลุ่มอิทธิพลเจ้าของปืนที่ทรงอำนาจมีบริษัทในเครื่องท้องถิ่นหลายแห่ง และเป็นโจทก์นำในดคีของศาลฎีกา พวกเขาเรียกกฎหมายของนิวยอร์กนี้ว่า ‘การละเมิดอย่างโจ่งแจ้ง’ กฎหมายจะเพิ่มอุปสรรคของสิทธิการป้องกันตัวของชาวนิวยอร์ก
ศาลตัดสินใน New York State Rifle & Pistol Association v. Bruen ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบอนุญาตในนิวยอร์กมีดุลยพินิจตามอัตวิสัยมากเกินไปว่าใครสามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่กล่าวว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ผู้สมัครถูกปฏิเสธใบอนุญาตพกพาแบบปกปิดหากพวกเขาไม่สามารถโน้มน้าวเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขามี "สาเหตุที่เหมาะสม" หรือเหตุผลพิเศษบางอย่างสำหรับการถือปืนพกเพื่อป้องกันตัวเอง
กฎการออกใบอนุญาตใหม่กำหนดให้ผู้สมัครต้องพบกับเจ้าหน้าที่ออกใบอนุญาต ซึ่งมักจะเป็นผู้พิพากษาหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสัมภาษณ์ตัวต่อตัว และให้รายละเอียดการติดต่อของสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิดและผู้ใหญ่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วย
กฎหมายกำหนดให้การพกปืนเข้าไปในสถานที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวถือเป็นความผิดทางอาญา เว้นแต่ธุรกิจจะแจ้งยืนยันว่ายินดีต้อนรับอาวุธปกปิด
ที่มาข้อมูล
