สรุปให้ ตำรวจปิดเกมส์ 15 ชม. วิสามัญ ชายคลั่งเพชรบุรีรัวยิงดับ 3 เจ็บ 3

จากกรณีเหตุชายคลั่งเพชรบุรี ช่วงวันที่ 22 มี.ค. เวลา 13.35 น. มีชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนไล่ยิงชาวบ้าน ที่ จ.เพชรบุรี จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต  ล่าสุด;วันที่ 23 มี.ค. เวลา 04.00น. ได้รับการยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุ ‘นายปิง’ ถูกวิสามัญเสียชีวิตแล้วบริเวณชั้น 2 ของบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปภายในที่เกิดเหตุ และนำเชือกมากั้นพื้นที่ไว้ 

สรุปให้! เริ่มปฏิบัติการกลางดึก

เจ้าหน้าที่นำรถหุ้มเกาะ เตรียมชาร์ท เวลา 23.50 น. โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่เน้นความรัดกุม เเละคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในพื้นที่  สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย เเละผู้บาดเจ็บ 3 ราย (นับเฉพาะที่ถึงมือเเพทย์)  ส่วนผู้ก่อเหตุ ได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ โดยยังคงอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งปฏิบัติการหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะพยายามเข้าไปลำเลียงร่างผู้ที่ถูกยิงออกมาจากพื้นที่ เพื่อให้เเพทย์เเละเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ระทึก! ชายคลั่งเพชรบุรี "กราดยิง" กราดยิง ดับ 2 เจ็บ 3 ตร.เร่งปิดล้อมเจรจา

• กราดยิงสายไหม ล่าสุด เกือบ 24 ชั่วโมงยังไม่จบ! ทำไมตำรวจไม่เข้าชาร์จ

เวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงลากโต๊ะ - เก้าอี้ ในบ้าน คาดว่าคงมีการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์มาเป็นที่กำบัง เเละผู้ก่อเหตุมีการปิดผ้าม่าน ซึ่งผู้ก่อเหตุมองเห็นตำรวจ เเต่ตำรวจมองไม่เห็นผู้ก่อเหตุ

ขณะเดียวกันตอนที่เอาเเม่มาเกลี้ยกล่อม ทางผู้ก่อเหตุก็ยังไม่มีท่าทีที่อ่อนลงเเต่อย่างใด ก็ไม่ทราบว่าตัวผู้ก่อเหตุได้ยินเสียงของเเม่หรือไม่ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้เป็นเพียงทรโข่ง ไม่ใช่เครื่องขยายเสียง 

ลำเลียงผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายพสิษฐ์ เอมโอษฐ์ หรือโอ๊ต อายุ 21 ปี (คู่กรณีผู้ก่อเหตุ) // 2.นายรัฐกร ทองแก้ว หรือเบล อายุ 21 ปี (เป็นพยานที่จะไปขึ้นศาลให้กับโอ๊ต)  เเละ 3.นายสิริพัฒน์ วัฒนะ อายุ 27 ปี เป็นพนักงานส่งพัสดุของบริษัทเอกชน (ไม่ใช่ไรเดอร์) 

ส่วนผู้บาดเจ็บมี 3 ราย ประกอบด้วย 1.ร.ต.ต.กนกศักดิ์ มุทธากาญจน์ นายก อบต.ต้นมะม่วง  2.นายกฤษดา ศรีทา อายุ 36 ปี ถูกยิงที่บริเวณก้น 1 นัด  เเละ 3.ร.ต.ท.สมหมาย เเย้มเยื้อน สังกัด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี 

เวลา 03.00 น. เสียงปืนสงบลง หลังจาดยิงข่มขวัญไปเกือบ 100 นัด ตำรวจชุดปฏิบัติการ ให้ขัอมูลว่า หลังจากที่ใช้ปืนลูกซองยิงเข้าไป เเล้วไม่มีการตอบโต้ ออกมา ทำให้จนท.ตำรวจไม่รู้ว่า อดีตทหารพรานที่ก่อเหตุ เสียชีวิต หรือ ซุ่มอยู่ หรือ กำบังอยู่  จึงหยุดตอบโต้ชั่วคราว จากการประเมินในเบื้องต้นของตำรวจ ช่วงบ่ายคนร้ายมีปืน 2 กระบอก

ภายหลังเข้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์และวิสามัญนายอนุวัชร์ แหวนทอง หรือปิง ผู้ก่อเหตุแล้ว พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า ตำรวจใช้ชุดปฏิบัติการ อินทรี 7 ,นเรศวร 261 และคอมมานโด  โดยการเข้าปฎิบัติภารกิจครั้งนี้ มีการปรับแผนถึง 4 ครั้ง เพราะคนร้ายยิงต่อสู้ ด้วยปืนกล็อก 19 ขนาด 9มม. ยิงโล่กันกระสุนถูกยิง 6 นัด สภาพบุบ จึงตัดสินใจเข้าดำเนินการทันที ทำให้คนร้ายซึ่งยิงตอบโต้เจ้าหน้าถูกวิสามัญ บริเวณชั้น 2 ด้านหลังบ้าน ซึ่งตลอดการปฏิบัติแม่ของผู้ก่อเหตุอยู่ด้วยตลอดเวลาและอยู่ในที่ปลอดภัย

เบื้องต้น พบปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จำนวน  1 กระบอก กล็อก19 ขนาด 9 มม. ส่วนจะมีปืนกระบอกอีกหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุ ไม่ได้ยิงแค่คู่กรณี 2 คน ในเรื่องทำร้ายร่างกายแต่ยิงบุคคลอื่นด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ยืนยันว่า ตำรวจพยายาม ทำตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก เจรจาตามขั้นตอนแล้ว มีการพาทั้งแม่ ครอบครัว และเพื่อนสนิทที่เป็นตำรวจมาเจรจาแต่อีกฝ่ายไม่รับข้อเสนอ จนกระทั่งสุดท้ายจำเป็นต้องยุติสถานการณ์ หลังปรับแผนปฏิบัติการถึง 4 ครั้ง ส่งชุดปฎิบัติการเข้าควบคุมแต่คนร้ายยิงต่อสู้กลับมา  ซึ่งในช่วงเจ้าหน้าที่ที่ปิดล้อมอยู่ นายปิง ผู้ก่อเหตุ ได้พูดคุยผ่านทาง Facebook กับทางเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจ โดยเขายืนยันว่าจะต่อสู้กับตำรวจแน่นอน

หลังคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิตรถหุ่นเกราะและชุดปฏิบัติการพิเศษถอนกำลังกลับที่ตั้ง เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยตั้งแต่เกิดเหตุช่วงบ่ายจึงถึงวิสามัญฯได้นั้น ใช้เวลานานกว่า 15ชั่วโมง ในการเข้าควบคุมสถานการณ์  ซึ่งมีเสียงปืนดังเกินกว่า 100 ครั้ง ตรวจสอบศพเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตถูกยิงรวมกว่า 30 นัด