svasdssvasds

District 2020 สมาร์ทซิตี้แห่งใหม่ของ UAE ที่เริ่มจากอีเวนต์ EXPO 2020 Dubai

District 2020 สมาร์ทซิตี้แห่งใหม่ของ UAE ที่เริ่มจากอีเวนต์ EXPO 2020 Dubai

จบงาน งานไม่จบ! เมื่อ UAE ผลักดันทั้งเรื่องเทคโนโลยีและความยั่งยืน ล่าสุดพลิกโฉม EXPO 2020 Dubai ที่เพิ่งจบอีเวนต์ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 เป็นสมาร์ทซิตี้แห่งใหม่ชื่อว่า "District 2020"

เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหนาว สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงแบบปุบปับ ชวนให้ป่วยไข้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ ขณะเดียวกัน เมืองใหญ่ก็สร้างมลภาวะให้โลกไว้มาก จากข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของสหประชาชาติระบุว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 60% มาจากพื้นที่เมือง 

หนึ่งในเมืองที่มีความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดและเป็นเขตเศรษฐกิจที่นักลงทุนเข้าไปเจรจาทางการค้าสูงมากคือ ดูไบ รัฐที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE: United Arab Emirates) ที่เพิ่งจัดงาน EXPO 2022 Dubai จบไปไม่กี่วัน (1 ต.ค. 2564 - 31 มี.ค. 2565) จุดที่น่าสนใจคือ อีเวนต์จบ แต่สถานที่จัดงานไม่จบ เพราะพื้นที่จัดงานได้รับการพัฒนาต่อยอดเป็น เมืองแห่งอนาคต ที่เรียกว่า District 2020

Source : district2020.ae

สถานที่แห่งนี้จึงเป็น เมืองแห่งความยั่งยืน (Sustainable City) อีกแห่งของโลกในอนาคต | Source : district2020.ae

District 2020 มีอะไร พร้อมให้เข้าไปอยู่จริงเมื่อไหร่?

แนวคิดการพัฒนาพื้นที่จัดอีเวนต์เป็นเมืองอัจฉริยะ District 2020 อยู่ภายใต้โครงการของรัฐบาลดูไบ โดยรัฐบาลจะยังคงเก็บรักษาสินทรัพย์และสิ่งก่อสร้างในพื้นที่จัดงาน EXPO 2020 เอาไว้ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาเมืองนั้น มีดังนี้

  • เป็นสมาร์ทซิตี้ที่เน้นเรื่อง Wellness-focus Zone หรือ เมืองอัจฉริยะที่ใส่ใจสุขภาพของผู้อยู่อาศัย
  • มีอาคารอัจฉริยะที่ได้มาตรฐานอาคารสีเขียว (LEED & CEEQUAL) พร้อมด้วยระบบสาธารณูปโภค
  • มีระบบขนส่งสาธารณะอัจฉริยะ ยานยนต์ไร้คนขับ ทางเดินเท้า เลนจักรยาน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
  • มีเครือข่ายการสื่อสารอัจฉริยะ โดยเน้นที่การใช้งาน 5G & IoT
  • การอยู่อาศัยร่วมกันจะเป็นแบบ Co-living Space มีพื้นที่สีเขียว-ร่มรื่น ให้ใช้ร่วมกัน 
  • มีพื้นที่สำนักงาน พื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ Co-working Space
  • มีสถานที่ท่องเที่ยวทางสังคมและวัฒนธรรม เช่น ศูนย์วิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน ศูนย์นิทรรศการ Dubai Exhibition Center 
  • เปิดให้เข้าอยู่ได้จริงช่วงต้นปี 2023
  • คาดว่ารองรับประชากรได้ 1.45 แสนคน

...................................................................................................

อ่านเพิ่มเกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย

...................................................................................................

District 2020 Masterplan Source : district2020.ae

เมือง 15 นาทีถึง!

ขณะที่เมืองต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โครงสร้างพื้นฐาน ของเมือง (เครือข่ายการสื่อสาร, ระบบขนส่งสาธารณะ) กลายเป็นหนึ่งในเกณฑ์สำคัญที่นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุน ฯลฯ พิจารณาว่า เมืองนั้นๆ มีความพร้อมสำหรับการเดินทางไปเยือนหรือทำธุรกิจไหม

การพัฒนาสมาร์ทซิตี้ให้เป็นเมืองที่ดีต่อกายและใจของผู้อยู่อาศัย โครงสร้างพื้นฐานต้องพร้อม และไม่ควรเสียเวลาเดินทางนานๆ รัฐบาลดูไบจึงกำหนดว่า ผู้อยู่อาศัยใน District 2020 จะสามารถเดินทางไปใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเมืองได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ จักรยาน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ทางเดินเท้า - ผู้อยู่อาศัยจึงไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว

District 2020 : A human-centric future city

Dubai: A central location, connected to the world

Source : district2020.ae

ถ้าจะไปทำธุรกิจในดูไบ สามารถเข้าไปเช่าพื้นที่ได้ตั้งแต่ Q4 ของปี 2022 แต่ถ้าจะอยู่อาศัย ต้องรอ Q1 ของปี 2023 | Source : district2020.ae

4 สิ่งที่ไทยเรียนรู้ได้ผ่าน District 2020 ที่ต่อยอดจากงาน Expo 2020 

องค์กรธุรกิจหนึ่งที่เข้าไปมีบทบาทในการพัฒนาพื้นที่จัดงาน EXPO 2022 Dubai ซึ่งมีการก่อสร้างแล้วกว่า 80% ให้กลายเป็นชุมชนเมืองที่รองรับผู้อยู่อาศัย ผู้ประกอบธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะและแพลตฟอร์ม IoT คือ ซีเมนส์ (SIEMENS) ซึ่งทางซีเมนส์เองก็เปิดเผยว่า จะเข้าไปเป็นผู้เช่าพื้นที่รายใหญ่ โดยจะย้ายสำนักงานใหญ่จากเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ไปอยู่ใน District 2020 

"ถ้าจะให้ยกตัวอย่างของสมาร์ทซิตี้ในวันนี้ งาน EXPO 2020 Dubai น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในโลกสำหรับสภาพแวดล้อมเมืองที่มีการเชื่อมต่ออย่างทั่วถึงและได้รับการออกแบบเพื่อรองรับวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน" สุวรรณี สิงห์ฤาเดช ซีอีโอ ซีเมนส์ ประเทศไทย กล่าวไว้

กลับมามองที่ประเทศไทย เราเรียนรู้อะไรจากการสร้างสมาร์ทซิตี้ District 2020 ได้บ้าง มีประเด็นที่น่าสนใจจาก สุวรรณี สิงห์ฤาเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีเมนส์ ประเทศไทย สรุปไว้ 4 ข้อ ดังนี้

  1. เมืองจะเป็นเมืองก็ต่อเมื่อมีคนอยู่อาศัย ดังนั้น การออกแบบสมาร์ทซิตี้ที่ประสบความสำเร็จจะต้องมุ่งเน้นที่คนเป็นหลัก หรือ ให้คนเป็นศูนย์กลาง (Human-Centered)
  2. เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างมาก แต่ในระดับที่แตกต่างกัน เนื่องจากเทคโนโลยีแต่ละอย่าง เมืองแต่ละเมือง ต่างกันออกไป จึงไม่มีโซลูชันใดที่นำไปใช้ได้ทุกเมืองแบบครอบจักรวาล เมืองจึงต้องคัดเลือกและผสมผสานเทคโนโลยีที่ใช้งานอย่างเหมาะสม มีความยืดหยุ่น ปรับแต่งสิ่งต่างๆ ได้ ประเด็นเหล่านี้จะช่วยให้เมืองมีความเป็นอัจฉริยะและก่อให้เกิดประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ตามมา
  3. เมืองจะต้องได้รับการพัฒนา เปลี่ยนแปลงได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้คนและความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ดังนั้น เมืองจึงต้องเก็บรวบรวมข้อมูลจากส่วนต่างๆ ของเมืองมาพัฒนา ปรับปรุงเมืองให้มีความฉลาดอยู่เสมอ โดยสิ่งสำคัญคือ จะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักอย่างต่อเนื่อง 
  4. การพัฒนาอย่างยั่งยืน ถือเป็นภารกิจสำคัญสำหรับเมืองต่างๆ เพราะในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน จำเป็นที่จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพื้นที่เมือง ปรับใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น AI, IoT, Blockchain, Big Data เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้จริง

...................................................................................................

ที่มา

related