svasdssvasds

เจาะหมดเปลือก "ธนันต์พร ตั้งพิทักษ์กุล" แม่ทัพหญิงของ PTT Trading ในสิงคโปร์

เจาะหมดเปลือก "ธนันต์พร ตั้งพิทักษ์กุล" แม่ทัพหญิงของ PTT Trading ในสิงคโปร์

เปิดใจ "ธนันต์พร ตั้งพิทักษ์กุล" แม่ทัพของ PTT Trading ที่สิงคโปร์ ในวันที่โลกกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด กับสภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

PTT International Trading Pte. Ltd. หรือ PTTT ภายใต้การบริหารงานของ ธนันต์พร ตั้งพิทักษ์กุล Managing Director ตั้งอยู่ ณ ประเทศสิงคโปร์

PTTT บริหารและกำกับดูแลบริษัทลูก 1 บริษัท คือ บริษัท PTT MEA LTD ตั้งอยู่ที่เมือง Abu Dhabi สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเพิ่งเปิดบริษัทในปี 2021 โดยมีวัตถุประสงค์ในการขยายธุรกิจ Oil and Gas ในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาให้มากขึ้น สร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกให้แข็งแกร่งขึ้น และหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ อาทิ Hydrogen, Carbon Credit และ other Future Energy

นอกจากนี้ PTTT ยังบริหารและกำกับดูแล Representative Office ที่ตั้งอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งมีหน้าที่สนับสนุนข้อมูลทางการตลาดของประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ของโลก 

ธนันต์พร เล่าว่า จากสถานการณ์โลกที่ผันผวนอย่างมาก ทั้งโควิด-19 และ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้องค์กรต้องวิเคราะห์ข้อมูล-ปรับแผนให้ทันต่อเหตุการณ์เสมอ 

ซึ่งแม้ว่าสำนักงานต่าง ๆ จะตั้งอยู่ตามจุดยุทธศาสตร์หลักของการค้าขายในธุรกิจพลังงาน แต่นอกจากการค้าขายแล้วก็ต้องสรรหาพันธมิตรใหม่ ๆ ในระดับโลกด้วย

"สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการมีวินัยในการบริหารความเสี่ยง ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางใด ไม่ว่าทิศทางราคาจะค้านมุมมองของนักวิเคราะห์ต่าง ๆ แค่ไหน ก็ต้องปิดความเสี่ยงให้อยู่ภายในกรอบที่บริษัทกำหนด การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมความเสี่ยงทุกด้านอย่างรัดกุม ทั้งหมดนี้จะทำให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน"

พลังงานสะอาดพลังงานแห่งอนาคต

ธนันต์พร มองว่า โลกกำลังอยู่ในยุคของการเปลี่ยนผ่านเป็นพลังงานสะอาดมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันซึ่งเป็นสินค้าหลักใน Portfolio ของบริษัทจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่ลดลงไม่มากก็น้อยในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนรองรับที่จะขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่เป็น Future Energy รวมถึงธุรกิจนอกเหนือพลังงานเช่นกัน

ซึ่งตามแผนที่ PTTT วางไว้ ธนันต์พร ระบุว่า เรื่องแรกที่จะมุ่งเน้น คือ การขยายพอร์ตก๊าซธรรมชาติ หรือ LNG เนื่องจาก LNG เป็นพลังงานสำคัญในยุคเปลี่ยนผ่านสู่อนาคต เพราะสะอาดกว่าน้ำมัน และสะดวกในการจัดเก็บ ขนส่ง และใช้งาน

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

โดย PTTT จะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจมีมูลค่าที่สูงขึ้น และลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด โดยใช้ความชำนาญในการบริหารจัดการถังเก็บผลิตภัณฑ์ การบริหารความเสี่ยงราคาและการจัดหาเรือขนส่ง มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กลุ่ม ปตท.

 

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังวางแผนที่จะขยายการค้าปิโตรเคมีที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นของการผลิตไบโอพลาสติก และการผลิตวัสดุทางการแพทย์ เช่น ถุงมือยางและแคปซูลยา รวมถึงการทำ Carbon Credit Trading เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้กลุ่ม ปตท. โดย PTTT จะใช้ประสบการณ์ในการค้าขายของบริษัท เพื่อสนับสนุนธุรกิจพลังงานทางเลือก อาทิ EV, Hydrogen และพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ที่กลุ่ม ปตท. ได้ลงทุนไปแล้ว ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น

ธนันต์พร ตั้งพิทักษ์กุล Managing Director PTT International Trading Pte. Ltd.

ไกลบ้านแต่ห่างกับครอบครัวแค่ไม่กี่ชั่วโมง

นอกจากแง่ธุรกิจที่ ธนันต์พร ต้องดูแล้ว ครอบครัวก็เป็นกำลังใจหนึ่งที่ทำให้เธอก้าวฝ่าฟันอุปสรรค์ในต่างแดนได้ แม้ว่าครอบครัวของเธอจะอยู่ที่ประเทศไทย ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง เธอจึงต้องทำงานห่างจากครอบครัว แต่ก็ไม่ย่อท้อ เพราะเธอมองว่า ข้อดีหนึ่งของสิงคโปร์ คือ ห่างจากประเทศไทยแค่ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งโลกเทคโนโลยีก็เข้ามาทำให้ครอบครัวที่ห่างไกลกันใกล้ชิดกันได้ 

"พี่ก็ใช้เทคโนโลยีที่เราใช้กันอยู่ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น แชท โทร และวิดีโอคอล กลับไปหาคนที่บ้านเป็นประจำ ก็จะรู้สึกว่าเราไม่ได้ไปไหนไกล ความรัก ความผูกพัน กับทุกคนในครอบครัว ยังเหมือนเดิม"

ธนันต์พร เล่าว่า ชีวิตในต่างแดนของเธอก็คือ ใช้เวลาว่างในวันหยุด ออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงหาร้านอาหารอร่อย ๆ ทาน เพื่อเป็นการทำการบ้าน เวลามีแขกหรือเพื่อนมาเยี่ยมจะได้ให้คำแนะนำในสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารต่าง ๆ ได้ในฐานะเจ้าบ้านได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ การพักผ่อนอีกอย่างหนึ่ง คือการทำอาหารไทยรับประทานเอง เพราะเป็นคนที่ชอบทำอาหารมากและจะทำเยอะ ซึ่งบางทีก็จะเรียกน้อง ๆ มาทานบ้าง เป็นการสังสรรค์กันในบริษัทอีกทางหนึ่ง

ประเทศ คน วัฒนธรรม และความหลากหลาย

สิงคโปร์เป็นประเทศศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่มีทักษะเข้ามาทำงาน เพราะมองว่าแรงงานเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว โดยปัจจุบันสิงคโปร์มีแรงงานต่างชาติเกือบ 40% ซึ่งในบริษัท PTTT เอง มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 85 คน ประกอบด้วยพนักงาน 11 สัญชาติ

ดังนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งวัฒนธรรมที่แตกต่างไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปฎิบัติงานร่วมกันเลย ในทางกลับกัน เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้รู้จัก ได้เรียนรู้ วัฒนธรรมของชาติอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เทศกาลสำคัญ ๆต่าง ๆ

"เวลาพนักงานต่างสัญชาติมีเทศกาล หรือเขากลับไปเยี่ยมบ้าน เขาก็จะมีของติดไม้ติดมือมาฝากเพื่อนร่วมงาน เลยเป็นจุดที่ทำให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความสำคัญของเทศกาลนั้นซึ่งกันและกัน รวมถึงแต่ละชาติจะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นถ้าเรานำจุดแข็ง และนำมาปรับใช้ ก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทได้มากขึ้น"

 

 

related